Tag Archives: book

The Man Who Loved Only Numbers

ภาษาไทยในชื่อ ‘ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข’ .. เรื่องของ พอล แอร์ดิช (Paul Erdos) นักคณิตศาสตร์ชาวฮังการี ที่มีคำเปรียบกันว่า หากวงการฟิสิกส์มีไอน์สไตน์ วงการคณิตศาสตร์ก็มีแอร์ดิช ..แอร์ดิชมีผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เกือบๆ พันห้าร้อยชิ้น วงการคณิตศาสตร์ยกย่องอัจฉริยภาพของแอร์ดิชอย่างมากถึงกับจัดให้มีเลขแอร์ดิช โดยมีนิยามว่า แอร์ดิช 1 คือผู้ที่ทำงานร่วมกับแอร์ดิชโดยตรง แอร์ดิช 2 คือร่วมงานกับผู้ร่วมงานของแอร์ดิช and so on ราวกับว่าแอร์ดิชคือศูนย์กลางของคณิตศาสตร์ในยุคนี้เลยทีเดียว

หนังสือเริ่มด้วยการกล่าวถึงความเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์และตัวตนของแอร์ดิช แล้วค่อยๆ กระจายออกไปสู่คนคนรอบตัว และเพื่อนร่วมงานของแอร์ดิช แทรกด้วยปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่สนุกๆ และยิ่งใหญ่ซึ่งมักจะพูดถึงที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ อ่านแล้วจะได้พบกับชื่อที่คุ้นเคยจำนวนมาก ตั้งแต่นักคณิตศาสตร์สมัยก่อนอย่าง ยูคลิด, เฟอร์มาต์, ออยเลอร์, เกาส์, เชบีเชฟ จนถึงยุคคาบเกี่ยวกับแอร์ดิชอย่าง ก็อดฟรีย์ ฮาร์ดี้, ศรินิวาสา รามานุจัน, จอห์น แนช รวมไปถึงวงการอื่นๆ เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, ริชาร์ด เฟย์นแมน, จอห์น วอน นอยแมนน์, คาร์ล เซแกน และรุ่นหลังๆ อย่าง เค็น ริเบ็ต ผู้ปูทางให้กับ แอนดรูว์ ไวลส์ ในการพิสูจน์ Fermat’s Last Theorem

ในหนังสือเล่มนี้บอกไว้ด้วยว่า ‘Algorithm’ เป็นคำที่เกิดมาจากชื่อ Abu Abdullah Muhammad bin Musa al-Khwarizmi นักคณิตศาสตร์ชาวเปอร์เซียที่มีชีวิตประมาณช่วง ค.ศ. 700-800 .. ผมว่าคนที่เรียนคอมพิวเตอร์ 99 ใน 100 คน ไม่รู้ที่มาของคำนี้ :P

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วนึกถึง P’Thep .. ท่านพี่ต้องชอบแน่ๆ :)

ความเสียหายหลังไปงานหนังสือ

เรียงลำดับความเสียหายตามนี้ …

  1. หลง
  2. กลลวง
  3. สุขสันต์วันฆาตกรรม
  4. คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 3 บทเพลงปิศาจ
  5. มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน นิทรรศการฆาตกรรม
  6. ซายากะ สาวน้อยยอดนักสืบ ตอน กระเป๋าสะพายใบเล็กสีเขียวอ่อน
  7. ซายากะ สาวน้อยยอดนักสืบ ตอน สีฟ้าบนผืนผ้าใบ
  8. เอกภพ สรรพสิ่ง และมนุษยชาติ
  9. ผู้ชายที่หลงรักตัวเลข
  10. อาร์ทิมิส ฟาวล์ ตอน โอปอลตลบหลัง
  11. จันทราปฏิวัติ

รวม 2,025 บาท โหะๆๆๆ …

ประกาศ ใครยืมชุดริง (4 เล่ม) ชุดอาร์ทิมิส ฟาล์ว (3 เล่ม) และ อย่าบอกใคร ส่งคืนด้วยนะ T_T

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน คดีพาหนี

ตอนที่ห้าของซีรีส์มิเกะเนะโกะภาคภาษาไทย ต้นเหตุเกิดจาก 12 ปีก่อนที่สองหนุ่มสาวชวนกันหนีออกจากบ้านเพราะเขาและเธอมาจากตระกูลที่เป็นอริกันมาช้านาน .. ทั้งสองหนีจากบ้านได้สำเร็จ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ .. จนถึงปัจจุบันตระกูลทั้งสองเลิกเป็นอริกันแล้ว และพยายามตามหาสองหนุ่มสาวกลับมา .. เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อลูกชายผู้สืบสกุลของทั้งสองตระกูลเกิดมาทะเลาะกันและตายลงทั้งสองคน เมื่อคนของทั้งสองตระกูลมาพบเข้าก็ต่างกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายเป็นคนสังหารคนของตน ทั้งสองตระกูลเลยกลับมาเป็นอริอีกครั้ง .. เรื่องเริ่มยุ่งเมื่อตำรวจท้องที่ชื่อว่าผู้สืบสกุลทั้งสองไม่ได้ฆ่ากันเอง แต่มีมือที่สามเป็นคนฆ่า คนที่มีมูลเหตุจูงใจมากที่สุดในสายตาของตำราจนายนี้คือ หนุ่มที่หนีไปเมื่อสิบสองปีที่แล้ว เพราะเขาจะได้รับมรดกทั้งหมดของตระกูล .. และที่ยุ่งไปกว่านั้นคือ หนุ่มสาวที่หนีออกจากบ้านชื่อ โยชิทาโร และ ฮารูมิ เหมือนกับสองพี่น้องคาตายามา .. คนของทั้งสองตระกูลมาเจอพี่น้องคาตายามาด้วยความบังเอิญ และคิดว่าเป็นสองคนที่หนีจากบ้านเมื่อสิบสองปีก่อน สองพี่น้องเลยถูกลากเข้าไปมีส่วนรับรู้เรื่องของทั้งสองตระกูล .. พี่น้องคาตายามาได้เจอกับสองหนุ่มสาวตามคำแนะนำของหมอที่เป็นคนช่วยพาทั้งสองหนีเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และรู้ว่าทั้งสองแยกกันไปมีคู่ของตน หากแต่ยังไปมาหาสู่กันฉันพี่น้อง สองหนุ่มสาวยืนยันว่าไม่สนใจมรดกของตระกูล เพราะต่างก็ฝ่าฟันความยากลำบากมามากมายจนมีชีวิตที่มีความสุขอย่างที่ต้องการ .. แต่แล้ว ก็เกิดเหตุกับทั้งสองจนได้เมื่อมีคนพยายามฆ่าภรรยาของโยชิทาโร และเกิดเหตุฆาตกรรมกับสามีของฮารูมิในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งสองคดีไม่เพียงแต่เกี่ยวโยงกัน แต่ยังใช้วิธีประหลาดพิสดารในการสังหารเหยื่ออีกด้วย .. นอกจากนี้ยังมีคดีปลีกย่อยเข้ามาผสมอีกหลายคดี เรื่องราวครั้งนี้ซับซ้อนมากกว่าทุกคดีที่ผ่านๆ มา .. โฮล์มกับคาทายามาจะคลี่คลายด้วยวิธีไหน ต้องติดตามอ่านกัน :)

ได้ยินว่า เล่มหกออกแล้วในงานหนังสือที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ซื้อมาอ่าน .. เรื่องหนังสือคงหยุดสักพัก .. ทำอย่างอื่นมั่ง ค้างๆ ไว้อีกเยอะ :P

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน บทเพลงมรณะ

เล่มสี่ในชุดแมวสามสียอดนักสืบภาคภาษาไทย ฮารุมิบังเอิญไปกินข้าวกับอิชิสึในร้านที่มีสาวๆ นักไวโอลินนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ พวกสาวๆ กำลังรอการประกาศผลผู้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขันไวโอลินครั้งสำคัญ .. แต่พอโทรศัพท์แจ้งผลมา บรรดาสาวๆ กลับไม่กล้าฟังผลด้วยตนเอง และมาขอให้ฮารูมิรับโทรศัพท์การประกาศผลแทน .. หลังจากฮารูมิวางโทรศัพท์แจ้งผลเพียงครู่เดียวก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก ฮารูมิรับโทรศัพท์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้มาจากกรรมการของการแข่งขัน แต่เป็นโทรศัพท์ลึกลับโทรมาขู่เอาชีวิตของ ‘มารี’ หนึ่งในผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ฮารูมิไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บรรดาสาวๆ นักไวโอลินเพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศการเฉลิมฉลอง .. กลับมาที่ห้องพักเธอจึงเล่าให้คาตายามาและโฮล์มส์ฟัง .. คาตายามาไม่ทันได้รับปากว่าจะสืบให้ ก็ถูกตามตัวไปสืบคดีฆาตกรรมเสียก่อน .. และยังไม่ทันสืบไปถึงไหน คุริฮาระ เจ้านายของคาตายามาก็ได้รับการขอร้องจาก อาซากุระ ผู้จัดการแข่งขันไวโอลินให้ช่วยส่งคนไปดูแลผู้เข้าชิงทั้งหมดที่จะต้องเก็บตัวในบ้านแห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันแข่งขัน เหตุก็เพราะ มีคนจ้องทำร้ายมารี แต่มารีรอดมาได้เพราะคนร้ายทำร้ายผิดตัว .. และกลายเป็นคาตายามานี่เองที่เป็นคนเดียวที่ตรงเงื่อนไขต่างๆ ที่อาซากุระต้องการ คือ ไม่สะดุดตา ไม่รู้เรื่องดนตรี ละเอียดอ่อน มีผู้หญิงมาเกี้ยวก็ไม่สน (ก็คาตายามาเป็นโรคแพ้ผู้หญิงนี่ !)

เหตุการณ์ช่วงแรกๆ ของการเก็บตัวเหมือนจะราบรื่น แต่เค้าลางมันเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ฮารูมิรับโทรศัพท์ลึกลับนั่นแล้ว .. ไม่นานเรื่องก็เกิด คนที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันครั้งนี้เริ่มตายไปทีละคนสองคน ที่บ้านเก็บตัวผู้เข้าแข่งขันก็เกิดเรื่องขึ้นไม่เว้นแต่ละวันจนการแข่งขันเกือบจะถูกยกเลิก มีหลายคนที่น่าสงสัย แต่เป็นใครกันล่ะที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ? .. คู่หูคนกับแมวต้องแสดงฝีมือสักหน่อยแล้ว :)

/me ชอบชื่อบทที่เอาศัพท์ดนตรีมาใช้ได้อย่างลงตัว เริ่มด้วยบทนำในชื่อ Tuning ตามมาด้วย Allegro ma non troppo , Adagio Cantabile, Allegro Vivace, จบคดีในบท Finale และส่งท้ายด้วย Encore :)

Deception Point

ช่วงนี้ blog หนังสือบ่อยแฮะ ^^’ … วันนี้ขอคั่นซีรีส์มิเกะเนะโกะด้วย Deception Point ผลงานอีกเล่มของ แดน บราวน์ ผู้แต่ง Da Vinci Code, Angels and Demons และ Digital Fortress เล่มภาษาอังกฤษมาสักครึ่งปีเห็นจะได้ ตอนนี้เล่มภาษาไทยมาแล้วในชื่อ “แผนลวงสะท้านโลก” .. มาครั้งนี้เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์และการเมือง เรื่องของเรื่องก็คือ ในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ เหลือผู้ที่ขับเคี่ยวกันเพียงสองราย คือ ซัคคารี เฮอร์นีย์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และ วุฒิสมาชิก โทมัส เซดจ์วิก เซกซ์ตัน ผู้ที่พยายามทุกหนทางที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้นำประเทศมหาอำนาจมาให้ได้ เซกซ์ตัน มีผู้ช่วยมือดีคือ เกเบรียลล์ แอช สาวสวยที่แนะนำเขาให้โจมตีการสนับสนุนนาซ่าของประธานาธิบดี เพราะในระยะหลัง นาซ่า ประสบความล้มเหลวบ่อยครั้ง และต้องนำเงินภาษีไปโปะโครงการจำนวนมากเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้ เซกซ์ตันใช้วาจาทางการเมืองโจมตีจุดนี้จนประชาชนเริ่มเอนเอียงมาที่เขา หากเขายังรักษาสถานการณ์ให้คนอยู่เช่นนี้ได้ เขาจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน .. แต่ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น .. โครงการตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกอันสัมพันธ์กับภาวะโลกร้อนของนาซ่า เกิดสแกนไปพบอุกกาบาตอายุ 190 ล้านปีฝังอยู่ใต้น้ำแข็งลึก จากการตรวจสอบอายุชั้นน้ำแข็ง ทำให้เชื่อกันว่าอุกกาบาตนี้ตกลงมาเมื่อสามร้อยปีก่อน ซึ่งได้รับการยืนยันจากหลักฐานที่มีการบันทึกการพบเห็น และจากทีมตรวจสอบอิสระ คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่มีการพบอุกกาบาตบนโลกเพราะเป็นสิ่งที่พบได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก แต่ที่ทำให้ทั้งโลกตะลึงคืออุกกาบาตที่ว่ามีฟอซซิลของสิ่งมีชีวิตคล้ยแมลงฝังอยู่นับสิบ แถมฟอซซิลที่ว่าสามารถจัดลำดับในอนุกรมวิธานระบบที่ใช้อยู่บนโลกได้ นั่นสอดคล้องกับทฤษฎีสองอย่าง คือ 1. นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอดในสภาวะสุดขีดได้น่าจะเป็นแมลง การจะเจอเอเลียนนอกโลกจึงมีโอกาสเป็นอะไรที่คล้ายแมลงมากกว่าจะเป็นมนุษย์ตัวเขียว และ 2. สิ่งมีชีวิตบนโลกไม่ได้กำเนิดขึ้นมาเองจากสภาพแวดล้อมอันเหมาะเจาะในอดีต แต่มาจากดาวดวงอื่น ฟอซซิลในอุกกาบาตจัดลำดับในอนุกรมวิธานได้ หมายความว่ามันอาจจะเป็นบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดบนโลก

หนึ่งในทีมตรวจสอบอิสระคือ ราเชล เซกซ์ตัน ลูกสาวของวุฒิสมาชิกเซกซ์ตัน เธอเป็นนักวิเคราะห์มือหนึ่งของสำนักงานลาดตระเวณแห่งชาติ (National Reconnaissance Office – NRO) สถาบันที่กรองข่าวและให้ความเห็นอย่างแม่นยำต่อประธานาธิบดี ในสถานการณ์ครั้งนี้ประธานาธิบดีได้ขอให้เธอร่วมทีมสำรวจอิสระเพื่อยืนยันการค้นพบ การยืนยันที่จะทำลายพ่อของเธอ ซึ่งประธานาธิบดีนั้นรู้อยู่แก่ใจ .. อาจจะเพราะราเชล ไม่ถูกกับพ่อของเธอที่ตลบแตลงและเห็นแก่ตัว ประกอบกับเป็นพนักงานของรัฐ เธอจึงตกลงทำงานนี้ .. จากหลักฐานในมือตอนแรกเธอได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของทำเนียบขาวว่าการค้นพบนั้นเป็นของจริง ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองพลิกทันที ! ข้อมูลนี้จะทำให้ประธานาธิบดีเป็นต่อในการเลือกตั้งครั้งถัดไปอย่างแน่นอน

เรื่องเหมือนจะจบลงเท่านี้ แต่ก่อนประธานาธิบดีจะแถลงข่าวที่จะนำไปสู่ชัยชนะเพียงไม่กี่นาที ทีมตรวจสอบอิสระบังเอิญไปเจอสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับอุกกาบาตอายุ 190 ล้านปีและน้ำแข็งอายุสามร้อยปีที่ฝังมัน ราเชลเริ่มจะเชื่อว่าอุกกาบาตนี้อาจจะไม่เป็นอย่างที่ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นก็ได้ ..

สิ่งผิดปกตินี้จะทำให้สถานภาพทางการเมืองของประธานาธิบดีและความน่าเชื่อถือของนาซ่าสั่นคลอน ..

ตั้งแต่วินาทีที่ทีมอิสระพบสิ่งผิดปกติ ทั้งหมดก็เริ่มถูกตามล่าจากบุคคลลึกลับ และค่อยๆ ตายไปทีละคน .. ราเชลและทีมต้องแก้ปริศนาทั้งทางการเมืองและวิทยาศาสตร์มากมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ใครเป็นผู้บงการ ? ใครพยายามตามล่าเธอ ? อุกกาบาตที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกยืนยันว่าเป็นของจริงจะเป็นของปลอมได้ยังไง ? เธอและเพื่อนในทีมต้องหาคำตอบให้ได้เพื่อความอยู่รอด

/me: อ่านจบในเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เล่มนี้ แดน บราวน์ แทรกมุกตลกมากขึ้น .. เสนอความทะเยอทะยานทางการเมือง ความเย่อหยิ่ง ตลบแตลงของนักการเมืองได้อย่างถึงรส .. และยังคงเอกลักษณ์ของแดน บราวน์ไว้เหมือนเดิม คือ มีตัวละครสาวสวยที่ชาญฉลาด (เล่มนี้มีหลายคนด้วย) และ การดำเนินเรื่องในเวลาเพียงชั่วข้ามวัน .. เรื่องนี้เริ่มต้นค่อนข้างอืดนิดๆ ไม่ฉับไวเหมือนเล่มก่อนๆ แต่ตอนท้ายๆ ก็เร่งให้เปิดหน้าถัดไปอย่างรวดเร็วได้เหมือนผลงานที่ผ่านๆ มา.. โดยสรุปเล่มนี้อิงข้อเท็จจริงด้านชีววิทยากับดาราศาสตร์อีกนิดหน่อย .. เล่มหน้าจะเอาอะไรมาใช้อีกเนี่ยะ :)

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน หมู่บ้านแมวผี

จากคราวที่แล้ว มีตำรวจนายหนึ่งที่เข้ามาร่วมสืบคดีด้วยคืออิชิสึ อิชิสึชอบฮารูมิ น้องสาวของคาตายามามาตั้งแต่เล่มก่อน อิชิสึเป็นตำรวจประจำท้องที่ และกลัวแมวเป็นที่สุด แต่กลับมาอยู่กับคนรักแมวอย่างฮารูมิและคาตายามา ตอนหมู่บ้านแมวผีเลยมีแนวร่วมสืบสวนรวมเป็นสี่คน .. เอ่อ สามคนกับหนึ่งตัว .. เนื้อความตามท้องเรื่องคือ อิชิสึ ย้ายบ้านมาอยู่ที่จัดสรรแห่งใหม่ไกลจากโตเกียว เป็นการขยับขยายเพื่อให้ฮารูมิกับคาตายามาเห็นความตั้งใจจริง .. อิชิสึชวนสองพี่น้องมาเยี่ยมบ้านใหม่ของเขา ระหว่างนั่งรถไฟมา คาตายามาก็เจอสาวสวยขอแลกที่นอนข้างบนกับเขา คาตายามายินดีอยู่แล้วเพราะที่ข้างบนคับแคบกว่าข้างล่าง หญิงสาวยืนกรานว่าเธอชอบนอนเตียงบนมากกว่า เขาก็ไม่ขัดขืน .. รุ่งเช้า หญิงสาวก็หายตัวไป เขาถามพนักงานก็ไม่มีใครพบ และเชื่อว่าอาจจะเป็นพวกที่แอบนั่งรถไฟโดยไม่จ่ายเงิน .. เมื่อถึงปลายทางคาตายามามีโอกาสได้ถามพนักงานประจำรถไฟอีกครั้ง พนักงานฯ หัวเราะก่อนจะตอบคาตายามาว่าเจอแต่แมวขาวตัวนึง พอเปิดประตูก็วิ่งหนีไป … ขณะนั่งคุยที่ห้องของอิชิสึเกิดมีเด็กจมน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด ผู้คนต่างมามุงดู ฮารูมิได้ยินชายคนหนึ่งพูดออกมาว่า “ไอ้หมอนั่นแน่ .. ฝีมือหมอนั่นแน่ๆ” .. ฮารูมิแอบฟังคำสนทนาจนรู้มาว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ที่ผ่านมามีเด็กเกือบตายมาแล้วสามครั้ง .. ชายคนนั้นเชื่อว่าคนของคฤหาสน์แมวซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกือบทั้งหมดในบริเวณนี้เป็นผู้ลงมือ ..หลังเกิดเรื่องนี้ไม่นาน หญิงชราเจ้าของคฤหาสน์แมวก็ถูกฆาตกรรมพร้อมกับแมวอีกสิบเอ็ดตัวจากราวๆ ยี่สิบตัว .. แถมชายที่ฮารูมิไปแอบฟังก็ฆ่าตัวตายในบริเวณใกล้ๆ คฤหาสน์แมวนั่นแหละ .. คดีดูเหมือนจะเรียบง่าย ฆาตกรต้องการปกป้องเด็กๆ จึงสังหารเจ้าของคฤหาสน์ แล้วจึงฆ่าตัวตายหนีความผิด .. เรื่องทั้งหมดมีเท่านี้จริงๆ หรือ ? .. คาตายามาไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น หลังจากเจ้าของคฤหาสน์ตายไป ลูกชายผู้ได้รับมรดกทั้งหมดก็ถูกฆาตกรรมอีก คนในพื้นที่ก็ยังมาตายอีกสองคนติดๆ กัน .. หญิงสาวที่คาตายามาเจอบนรถไฟก็มาปรากฏตัวเป็นหลานสาวของหญิงชราที่ถูกฆาตกรรม เธอยังบอกว่าจะแต่งงานกับคาตายามาด้วย (^^’) … ปริศนาการตายของคนหลายคนเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า ? เกี่ยวกับเด็กๆ ที่ถูกจ้องเอาชีวิดได้ยังไง ? แมวมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ? คาตายามาจะเป็นฝั่งเป็นฝาหรือไม่ ?.. โฮล์มส์ และคาตายามา คือผู้เฉลยคำตอบ

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน สังหารโหดอาจารย์

งดบันทึก blog + อื่นๆ ไปซะนาน วันนี้ release ซักหน่อย

ตอนที่สองของมิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ต่อจากเล่มแรก ทาคายามา โยชิทาโร ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากการเป็นตำรวจ แต่จนแล้วจนรอด เจ้านายของเขาก็ยังไม่ยอมให้เขาออกเสียที ฮารูมิ น้องสาวของทาคายามาเปลี่ยนงานจากพนักงานห้างสรรพสินค้า มาเป็นพนักงานต้อนรับอยู่โรงเรียนสอนพิเศษ เธอพยายามจับคู่พี่ชายกับ ทาเคโมริ ยูคิโกะ เจ้านายของเธอ ขณะเดียวกัน ก็มีนักเรียนท่าทางแปลก เข้ามาสมัครทุกคอร์สของโรงเรียน ฮารูมิแปลกใจเพราะหลายๆ คอร์สนั้นมีเวลาเรียนพร้อมกัน ผู้สมัครไม่สามารถจะเรียนพร้อมๆ กันทุกคอร์สได้แน่ แถมเบอร์โทรติดต่อของผู้สมัครรายนี้มันคุ้นๆ เหลือเกิน ด้วยความสงสัยเธอจึงให้พี่ชายติดตามสืบดู .. ภายหลังถึงรู้ว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ใกล้เคียงกับเบอร์โทรของตำรวจนครบาล ที่ทำงานของพี่ชายเธอนั่นเอง .. แถมชื่อผู้สมัครรายนั้นก็ตรงกับชื่อของเหยื่อฆาตกรรมเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ยังไม่สามารถปิดคดีได้! และที่อยู่ที่กรอกในใบสมัครก็เป็นสถานที่เกิดเหตุนั่นเอง ! .. ทาคายามาคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ เขาได้รับอนุญาตให้รื้อฟื้นคดีนี้ ระหว่างตามสืบก็เกิดเหตุประหลาดขึ้นอีก อาจารย์ประจำโรงเรียนที่ฮารูมิทำงานอยู่ก็ทยอยกันตายทีละคนสองคน ปริศนาได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาคายามาซึ่งหลวมตัวเข้ามาสืบเรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้วนอกจากพยายามแก้มันให้ได้ .. ที่แปลกไปอีกอย่างคือ ครั้งนี้ทำไมโฮล์มส์ไม่ค่อยอยากช่วยอะไรเลย มันทำตัวเหมือนรู้ แต่ไม่ยอมบอกใบ้ทาคายามาเลยสักอย่างเดียว .. แมวตัวนี้แปลกจริงๆ

BTW, Ubuntu 5.04 Hoary Hedgehog release แล้ว :D

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน ปริศนาศพนักศึกษาสาว

เพิ่งจะมีเวลาว่างพอจะอ่านหนังสือ เลยหยิบมาอ่านซะหนึ่งเล่ม .. มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ a.k.a แมวสามสียอดนักสืบ ญี่ปุ่นใช้ชื่อ mikeneko homozu no suiri ซีรีส์ของ ‘โฮล์มส์’ แมวสามสีที่ช่วยคลี่คลายคดีร่วมกับ ‘คาตายามา’ นายตำรวจอ่อนหัดที่เกลียดเลือดกลัวหญิง .. เล่มแรกเป็นตอน ‘ปริศนาศพนักศึกษาสาว’ เปิดตัว คาตายามา ซึ่งได้รับคำสั่งแค่ไปสอบถามข้อมูลของคดีนักศึกษาสาวถูกฆาตกรรมแทนหัวหน้า แต่กลายเป็นว่าพาตัวเองเข้าไปสืบสวนคดีนี้ไปด้วย .. แถมอาจารย์ที่เป็นคนติดต่อขอความช่วยเหลือในการสืบสวนกลับถูกฆาตกรรมในห้องปิดตายซะอีก เรื่องเลยยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ .. เมื่อไร้ที่พึ่ง โฮล์มส์ แมวของอาจารย์ที่ถูกฆาตกรรม เลยติดสอยห้อยตามคาตายามาไปเกือบตลอดเวลา .. และทุกครั้งที่คดีถึงทางตัน โฮล์มส์ ก็มักจะทำอะไรประหลาดๆ ให้คาตายามาแก้ปริศนาออกเสมอ .. เหมือนกับมันพยายามบอกใบ้เพื่อให้คาตายามาหาฆาตกรที่สังหารเจ้านายของมันให้ได้ .. การตายของนักศึกษา และการตายของอาจารย์เกี่ยวข้องกันหรือไม่ ? ตัวละครไม่กี่ตัวในตอนแรกนี้ ใครทำอะไรกันแน่ ? เกี่ยวโยงกันได้ยังไง ?.. ต้องอ่านแล้วมาคาดเดากันเอาเอง

นิยายของ อาคากะวา จิโร (Akagawa Jiro) ไม่ได้หักเหลี่ยมเฉือนคมเหมือนอาชญนิยายของนักเขียนชาวตะวันตกที่เคยอ่านๆ มา อ่านแล้วนึกถึงโคนัน หรือไม่ก็คินดะอิจิ .. อืม จะว่าไปแล้วอ่าน มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ นี่คล้ายๆ ได้อ่านการ์ตูนแฮะ :) ตอน ปริศนาศพนักศึกษาสาว นี่ซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเมื่อเดือนตุลาปีที่แล้ว เป็นการพิมพ์ครั้งที่หกแล้ว แต่จากคำนำบอกไว้ว่าในญี่ปุ่นพิมพ์มาแล้ว 89 ครั้ง .. ปกหลังให้ข้อมูลไว้ว่า อาคากะวา จิโร เป็นนักเขียนที่มีผลงานมากกว่าสี่ร้อยเรื่อง ยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 270 ล้านเล่ม ไม่ธรรมดาเลย

Blood Work

ภาษาไทยในชื่อ “ภารกิจเลือด” เป็นเรื่องของ เทอร์รี่ แม็คเคลเล็บ อดีตเจ้าหน้าที่เอ็ฟบีไอ เขาได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ และกำลังเริ่มชีวิตใหม่ เพราะสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยที่จะทำงานภาคสนามอีกแล้ว เขาจึงต้องคอยปฏิเสธการร้องขอจากผู้คนจำนวนมากที่อยากให้เขาช่วยเหลือในการสืบสวน .. กราเซียล่า ริเวอร์ส เป็นอีกคนที่มาขอร้องให้เขาช่วยสืบสวนคดีฆาตกรรมน้องสาวของเธอที่ดูแลโดยตำรวจท้องที่และไม่มีวี่แววว่าจะปิดคดีได้ในเร็ววัน เขาปฏิเสธไปเช่นเดียวกับทุกคน แต่เธอบอกเขาในสิ่งที่เขาไม่ควรจะได้รู้ นั่นคือ หัวใจที่เขาได้รับเปลี่ยนเป็นของกลอเรีย น้องสาวของกราเซียล่าที่ถูกฆาตกรรมนั่นเอง .. เพราะคดีอยู่นอกเหนืออำนาจของเขา เขาจึงรับปากได้แค่ว่าจะช่วยดู แต่เมื่อเขาได้เห็นหลักฐานก็ยิ่งทำให้เห็นว่าการสืบสวนของตำรวจมองข้ามไปหลายจุด .. คดีไม่เพียงซับซ้อนมากกว่าที่เห็น แต่ยังพัวพันกับตัวเขาเองอีกด้วย เพราะเขาเองก็เข้าข่ายคนที่ได้รับผลประโยชน์จากการตายของกลอเรีย .. ถ้าเขาพลาด เขาเองก็จะกลายเป็นเหยื่อไปด้วย ..

ไมเคิล คอนเนลลี (Micheal Connelly) อดีตเป็นนักข่าวอาชญากรรมประจำหนังสือพิมพ์ เมื่อมาเป็นนักเขียนจึงถ่ายทอดรายละเอียดอาชญากรรมและการสืบสวนสอบสวนได้อย่างสมจริง นับเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง และมีคนติดตามผลงานมากที่สุดคนหนึ่ง .. เรื่อง Blood Work เป็นผลงานลำดับที่ 13 ของเขา เป็นเล่มที่ได้รับรางวัลนวนิยายอาชญากรรมยอดเยี่ยมประจำปี และรางวัลอื่นๆ ในหลายประเทศ .. ภารกิจเลือดเดินเรื่องตามความคิดอ่านของ แม็คเคลเล็บ ชวนให้นักอ่านได้สนุกกับการคิด ตามหาตัวฆาตกร และหาสิ่งที่เชื่อมโยงเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกันเข้าด้วยกัน .. ตัวฆาตกรยังพอเดาได้ แต่ที่ยากจะเดาคือเจตนาที่แท้จริงของฆาตกร อันเป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด .. ตอนเรื่องคลี่คลายนี่เล่นเอาขนลุก จบแล้วต้องย้อนอ่านเป็นรอบที่สอง :P

ซีรีส์ของ เทอร์รี่ แม็คเคลเล็บ นี้เริ่มต้นที่ Blood Work และมีเล่มต่อให้เห็นแล้วคือ A darkness more than night .. มันส์ไม่แพ้กัน :)

Gone For Good

Gone For Good ใช้ชื่อไทยสั้นๆ ว่า “หาย” เป็นอาชญนิยายอีกเรื่องของ ฮาร์ลาน โคเบน ที่เล่นกับการสาปสูญและฆาตกรรมเหมือน Tell No One .. และก็เช่นเดียวกันที่เส้นทางจากต้นเรื่องไปท้ายเรื่องที่พลิกไปพลิกมาตลอด .. เรื่องราวดำเนินไปในมุมมองของตัวละครชื่อ วิลล์ ไคลน์ .. สิบเอ็ดปีแล้วที่เคนพี่ชายของวิลล์หายสาปสูบไปพร้อมกับการถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรที่สังหารอดีตคนรักของวิลล์ .. แม้เคนจะได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น แต่วิลล์เชื่อมั่นและไม่เคยสงสัยในตัวพี่ชายเลยแม้แต่น้อย .. ด้วยระยะเวลาอันยาวนานถึงสิบเอ็ดปีทำให้ทุกคนในครอบครัวพากันเชื่อว่าเคนตายจากพวกเขาไปแล้ว .. แต่ก่อนที่แม่ของเขาจะสิ้นลม แม่ก็บอกกับเขาว่า เคนยังมีชีวิตอยู่ นอกจากคำพูดของแม่แล้วเขายังพบหลักฐานที่ทำให้เขาเชื่อว่าพี่ชายของเขายังไม่ตาย .. หลังจากแม่ของวิลล์จากไป เรื่องร้ายๆ ก็เกิดกับเขาอีกเมื่อคนรักคนปัจจุบันของเขาหายสาปสูญไปอีกคนพร้อมๆ กับข่าวว่าเธอเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรม เมื่อเขาพยายามตามหาเธอ กลับพบว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาคิดว่าเธอเป็น .. ยิ่งสืบยิ่งพบความจริงที่น่าประหลาดใจทั้งของตัวเขาเอง คนรัก อดีตคนรัก และพี่ชาย .. มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ใครเป็นใครกันแน่ ? ทำไมเคนถึงต้องหายตัวไป ? เคนยังไม่ตายจริงหรือ ? การตายของอดีตคนรักของเขามาจากสาเหตุใด ? และใครคือฆาตกรตัวจริง ? .. ทั้งวิลล์ และคนอ่านคงอยากรู้ความจริงให้ถึงที่สุดแน่นอน ;)