ในสมัยอาชิคากะที่ประเทศญี่ปุ่น มีเด็กน้อยผู้หนึ่งชื่อว่าอิคคุยุ ชอบติดตามมารดาไปวัดอยู่เสมอ หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็ชอบเรียกไปใช้สอยอย่างใกล้ชิด วันหนึ่งขณะที่กำลังปัดกวาดทำความสะอาดอยู่นั้น ก็บังเอิญไปปัดเอาถ้วยชาอย่างดีราคาแพงของหลวงพ่อตกแตก เด็กน้อยรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นของหาไม่ได้อีกแล้ว เสียงหลวงพ่อก็กำลังเดินเข้ามาในห้อง หนูน้อยอิคคุยุไม่มีเวลาคิดมากกระวีกระวาดลุกขึ้นยืน ทั้งสองมือถือถ้วยชาที่แตกซ่อนไว้ข้างหลัง ตาจ้องมองหลวงพ่อที่นั่งลงบนอาสนะ อิคคุยุก็แน่ใจว่าหลวงพ่อคงยังไม่ได้ยืนเสียงถ้วยชาแตก จึงเกิดปฏิภาณ ขึ้นทันที
“หลวงพ่อครับ คนเรานี่ต้องตายทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้นเลยหรือครับ ?”
“ลูกเอ๋ย มันเป็นกฏธรรมชาติธรรมดา” หลวงพ่อชี้แจงโดยซื่อ และกล่าวต่อไปอืกว่า
“บรรดาทุกสิ่งในโลกไม่มียกเว้น เมื่อถึงคราวแล้วย่อมต้องตายอย่างแน่นอน”
อิคคุยุนั่งฟังหลวงพ่อเทศน์สอนจนจบ แล้วแบมือยื่นเศษถ้วยชาให้หลวงพ่อดู พร้อมกับทำหน้าเศร้าๆ ว่า
“ถ้วยชาของหลวงพ่อก็เหมือนกันครับ มันถึงคราวตายเสียแล้ว”
สมัยแรกๆ นั้น ทุกคนทราบแต่เพียงแววไหวพริบ ปฏิภาณของเด็กน้อยอิคคุยุเท่านั้น ยังไม่มีใครคาดฝันเลยว่า เด็กน้อยผู้นี้ ต่อมาจะกลับกลายมาเป็นอาจารย์ใหญ่ฝ่ายเซ็นในสมัยที่ท่านโตและบวชเป็นพระ และตัวลูกศิษย์องค์นี้ กลับเป็นผู้บรรลุธรรมก่อนอาจารย์ผู้เฒ่าของท่านเสียอีก