มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน บทเพลงมรณะ

เล่มสี่ในชุดแมวสามสียอดนักสืบภาคภาษาไทย ฮารุมิบังเอิญไปกินข้าวกับอิชิสึในร้านที่มีสาวๆ นักไวโอลินนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ พวกสาวๆ กำลังรอการประกาศผลผู้เข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขันไวโอลินครั้งสำคัญ .. แต่พอโทรศัพท์แจ้งผลมา บรรดาสาวๆ กลับไม่กล้าฟังผลด้วยตนเอง และมาขอให้ฮารูมิรับโทรศัพท์การประกาศผลแทน .. หลังจากฮารูมิวางโทรศัพท์แจ้งผลเพียงครู่เดียวก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก ฮารูมิรับโทรศัพท์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้มาจากกรรมการของการแข่งขัน แต่เป็นโทรศัพท์ลึกลับโทรมาขู่เอาชีวิตของ ‘มารี’ หนึ่งในผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย ฮารูมิไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้บรรดาสาวๆ นักไวโอลินเพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศการเฉลิมฉลอง .. กลับมาที่ห้องพักเธอจึงเล่าให้คาตายามาและโฮล์มส์ฟัง .. คาตายามาไม่ทันได้รับปากว่าจะสืบให้ ก็ถูกตามตัวไปสืบคดีฆาตกรรมเสียก่อน .. และยังไม่ทันสืบไปถึงไหน คุริฮาระ เจ้านายของคาตายามาก็ได้รับการขอร้องจาก อาซากุระ ผู้จัดการแข่งขันไวโอลินให้ช่วยส่งคนไปดูแลผู้เข้าชิงทั้งหมดที่จะต้องเก็บตัวในบ้านแห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันแข่งขัน เหตุก็เพราะ มีคนจ้องทำร้ายมารี แต่มารีรอดมาได้เพราะคนร้ายทำร้ายผิดตัว .. และกลายเป็นคาตายามานี่เองที่เป็นคนเดียวที่ตรงเงื่อนไขต่างๆ ที่อาซากุระต้องการ คือ ไม่สะดุดตา ไม่รู้เรื่องดนตรี ละเอียดอ่อน มีผู้หญิงมาเกี้ยวก็ไม่สน (ก็คาตายามาเป็นโรคแพ้ผู้หญิงนี่ !)

เหตุการณ์ช่วงแรกๆ ของการเก็บตัวเหมือนจะราบรื่น แต่เค้าลางมันเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ฮารูมิรับโทรศัพท์ลึกลับนั่นแล้ว .. ไม่นานเรื่องก็เกิด คนที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันครั้งนี้เริ่มตายไปทีละคนสองคน ที่บ้านเก็บตัวผู้เข้าแข่งขันก็เกิดเรื่องขึ้นไม่เว้นแต่ละวันจนการแข่งขันเกือบจะถูกยกเลิก มีหลายคนที่น่าสงสัย แต่เป็นใครกันล่ะที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ? .. คู่หูคนกับแมวต้องแสดงฝีมือสักหน่อยแล้ว :)

/me ชอบชื่อบทที่เอาศัพท์ดนตรีมาใช้ได้อย่างลงตัว เริ่มด้วยบทนำในชื่อ Tuning ตามมาด้วย Allegro ma non troppo , Adagio Cantabile, Allegro Vivace, จบคดีในบท Finale และส่งท้ายด้วย Encore :)

Deception Point

ช่วงนี้ blog หนังสือบ่อยแฮะ ^^’ … วันนี้ขอคั่นซีรีส์มิเกะเนะโกะด้วย Deception Point ผลงานอีกเล่มของ แดน บราวน์ ผู้แต่ง Da Vinci Code, Angels and Demons และ Digital Fortress เล่มภาษาอังกฤษมาสักครึ่งปีเห็นจะได้ ตอนนี้เล่มภาษาไทยมาแล้วในชื่อ “แผนลวงสะท้านโลก” .. มาครั้งนี้เป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์และการเมือง เรื่องของเรื่องก็คือ ในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ เหลือผู้ที่ขับเคี่ยวกันเพียงสองราย คือ ซัคคารี เฮอร์นีย์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และ วุฒิสมาชิก โทมัส เซดจ์วิก เซกซ์ตัน ผู้ที่พยายามทุกหนทางที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้นำประเทศมหาอำนาจมาให้ได้ เซกซ์ตัน มีผู้ช่วยมือดีคือ เกเบรียลล์ แอช สาวสวยที่แนะนำเขาให้โจมตีการสนับสนุนนาซ่าของประธานาธิบดี เพราะในระยะหลัง นาซ่า ประสบความล้มเหลวบ่อยครั้ง และต้องนำเงินภาษีไปโปะโครงการจำนวนมากเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้ เซกซ์ตันใช้วาจาทางการเมืองโจมตีจุดนี้จนประชาชนเริ่มเอนเอียงมาที่เขา หากเขายังรักษาสถานการณ์ให้คนอยู่เช่นนี้ได้ เขาจะชนะการเลือกตั้งแน่นอน .. แต่ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น .. โครงการตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของแผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกอันสัมพันธ์กับภาวะโลกร้อนของนาซ่า เกิดสแกนไปพบอุกกาบาตอายุ 190 ล้านปีฝังอยู่ใต้น้ำแข็งลึก จากการตรวจสอบอายุชั้นน้ำแข็ง ทำให้เชื่อกันว่าอุกกาบาตนี้ตกลงมาเมื่อสามร้อยปีก่อน ซึ่งได้รับการยืนยันจากหลักฐานที่มีการบันทึกการพบเห็น และจากทีมตรวจสอบอิสระ คงไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ที่มีการพบอุกกาบาตบนโลกเพราะเป็นสิ่งที่พบได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก แต่ที่ทำให้ทั้งโลกตะลึงคืออุกกาบาตที่ว่ามีฟอซซิลของสิ่งมีชีวิตคล้ยแมลงฝังอยู่นับสิบ แถมฟอซซิลที่ว่าสามารถจัดลำดับในอนุกรมวิธานระบบที่ใช้อยู่บนโลกได้ นั่นสอดคล้องกับทฤษฎีสองอย่าง คือ 1. นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอดในสภาวะสุดขีดได้น่าจะเป็นแมลง การจะเจอเอเลียนนอกโลกจึงมีโอกาสเป็นอะไรที่คล้ายแมลงมากกว่าจะเป็นมนุษย์ตัวเขียว และ 2. สิ่งมีชีวิตบนโลกไม่ได้กำเนิดขึ้นมาเองจากสภาพแวดล้อมอันเหมาะเจาะในอดีต แต่มาจากดาวดวงอื่น ฟอซซิลในอุกกาบาตจัดลำดับในอนุกรมวิธานได้ หมายความว่ามันอาจจะเป็นบรรพบุรุษของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงทั้งหมดบนโลก

หนึ่งในทีมตรวจสอบอิสระคือ ราเชล เซกซ์ตัน ลูกสาวของวุฒิสมาชิกเซกซ์ตัน เธอเป็นนักวิเคราะห์มือหนึ่งของสำนักงานลาดตระเวณแห่งชาติ (National Reconnaissance Office – NRO) สถาบันที่กรองข่าวและให้ความเห็นอย่างแม่นยำต่อประธานาธิบดี ในสถานการณ์ครั้งนี้ประธานาธิบดีได้ขอให้เธอร่วมทีมสำรวจอิสระเพื่อยืนยันการค้นพบ การยืนยันที่จะทำลายพ่อของเธอ ซึ่งประธานาธิบดีนั้นรู้อยู่แก่ใจ .. อาจจะเพราะราเชล ไม่ถูกกับพ่อของเธอที่ตลบแตลงและเห็นแก่ตัว ประกอบกับเป็นพนักงานของรัฐ เธอจึงตกลงทำงานนี้ .. จากหลักฐานในมือตอนแรกเธอได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของทำเนียบขาวว่าการค้นพบนั้นเป็นของจริง ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองพลิกทันที ! ข้อมูลนี้จะทำให้ประธานาธิบดีเป็นต่อในการเลือกตั้งครั้งถัดไปอย่างแน่นอน

เรื่องเหมือนจะจบลงเท่านี้ แต่ก่อนประธานาธิบดีจะแถลงข่าวที่จะนำไปสู่ชัยชนะเพียงไม่กี่นาที ทีมตรวจสอบอิสระบังเอิญไปเจอสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับอุกกาบาตอายุ 190 ล้านปีและน้ำแข็งอายุสามร้อยปีที่ฝังมัน ราเชลเริ่มจะเชื่อว่าอุกกาบาตนี้อาจจะไม่เป็นอย่างที่ทุกคนเชื่อว่ามันเป็นก็ได้ ..

สิ่งผิดปกตินี้จะทำให้สถานภาพทางการเมืองของประธานาธิบดีและความน่าเชื่อถือของนาซ่าสั่นคลอน ..

ตั้งแต่วินาทีที่ทีมอิสระพบสิ่งผิดปกติ ทั้งหมดก็เริ่มถูกตามล่าจากบุคคลลึกลับ และค่อยๆ ตายไปทีละคน .. ราเชลและทีมต้องแก้ปริศนาทั้งทางการเมืองและวิทยาศาสตร์มากมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ใครเป็นผู้บงการ ? ใครพยายามตามล่าเธอ ? อุกกาบาตที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกยืนยันว่าเป็นของจริงจะเป็นของปลอมได้ยังไง ? เธอและเพื่อนในทีมต้องหาคำตอบให้ได้เพื่อความอยู่รอด

/me: อ่านจบในเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง เล่มนี้ แดน บราวน์ แทรกมุกตลกมากขึ้น .. เสนอความทะเยอทะยานทางการเมือง ความเย่อหยิ่ง ตลบแตลงของนักการเมืองได้อย่างถึงรส .. และยังคงเอกลักษณ์ของแดน บราวน์ไว้เหมือนเดิม คือ มีตัวละครสาวสวยที่ชาญฉลาด (เล่มนี้มีหลายคนด้วย) และ การดำเนินเรื่องในเวลาเพียงชั่วข้ามวัน .. เรื่องนี้เริ่มต้นค่อนข้างอืดนิดๆ ไม่ฉับไวเหมือนเล่มก่อนๆ แต่ตอนท้ายๆ ก็เร่งให้เปิดหน้าถัดไปอย่างรวดเร็วได้เหมือนผลงานที่ผ่านๆ มา.. โดยสรุปเล่มนี้อิงข้อเท็จจริงด้านชีววิทยากับดาราศาสตร์อีกนิดหน่อย .. เล่มหน้าจะเอาอะไรมาใช้อีกเนี่ยะ :)

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน หมู่บ้านแมวผี

จากคราวที่แล้ว มีตำรวจนายหนึ่งที่เข้ามาร่วมสืบคดีด้วยคืออิชิสึ อิชิสึชอบฮารูมิ น้องสาวของคาตายามามาตั้งแต่เล่มก่อน อิชิสึเป็นตำรวจประจำท้องที่ และกลัวแมวเป็นที่สุด แต่กลับมาอยู่กับคนรักแมวอย่างฮารูมิและคาตายามา ตอนหมู่บ้านแมวผีเลยมีแนวร่วมสืบสวนรวมเป็นสี่คน .. เอ่อ สามคนกับหนึ่งตัว .. เนื้อความตามท้องเรื่องคือ อิชิสึ ย้ายบ้านมาอยู่ที่จัดสรรแห่งใหม่ไกลจากโตเกียว เป็นการขยับขยายเพื่อให้ฮารูมิกับคาตายามาเห็นความตั้งใจจริง .. อิชิสึชวนสองพี่น้องมาเยี่ยมบ้านใหม่ของเขา ระหว่างนั่งรถไฟมา คาตายามาก็เจอสาวสวยขอแลกที่นอนข้างบนกับเขา คาตายามายินดีอยู่แล้วเพราะที่ข้างบนคับแคบกว่าข้างล่าง หญิงสาวยืนกรานว่าเธอชอบนอนเตียงบนมากกว่า เขาก็ไม่ขัดขืน .. รุ่งเช้า หญิงสาวก็หายตัวไป เขาถามพนักงานก็ไม่มีใครพบ และเชื่อว่าอาจจะเป็นพวกที่แอบนั่งรถไฟโดยไม่จ่ายเงิน .. เมื่อถึงปลายทางคาตายามามีโอกาสได้ถามพนักงานประจำรถไฟอีกครั้ง พนักงานฯ หัวเราะก่อนจะตอบคาตายามาว่าเจอแต่แมวขาวตัวนึง พอเปิดประตูก็วิ่งหนีไป … ขณะนั่งคุยที่ห้องของอิชิสึเกิดมีเด็กจมน้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด ผู้คนต่างมามุงดู ฮารูมิได้ยินชายคนหนึ่งพูดออกมาว่า “ไอ้หมอนั่นแน่ .. ฝีมือหมอนั่นแน่ๆ” .. ฮารูมิแอบฟังคำสนทนาจนรู้มาว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ที่ผ่านมามีเด็กเกือบตายมาแล้วสามครั้ง .. ชายคนนั้นเชื่อว่าคนของคฤหาสน์แมวซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกือบทั้งหมดในบริเวณนี้เป็นผู้ลงมือ ..หลังเกิดเรื่องนี้ไม่นาน หญิงชราเจ้าของคฤหาสน์แมวก็ถูกฆาตกรรมพร้อมกับแมวอีกสิบเอ็ดตัวจากราวๆ ยี่สิบตัว .. แถมชายที่ฮารูมิไปแอบฟังก็ฆ่าตัวตายในบริเวณใกล้ๆ คฤหาสน์แมวนั่นแหละ .. คดีดูเหมือนจะเรียบง่าย ฆาตกรต้องการปกป้องเด็กๆ จึงสังหารเจ้าของคฤหาสน์ แล้วจึงฆ่าตัวตายหนีความผิด .. เรื่องทั้งหมดมีเท่านี้จริงๆ หรือ ? .. คาตายามาไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น หลังจากเจ้าของคฤหาสน์ตายไป ลูกชายผู้ได้รับมรดกทั้งหมดก็ถูกฆาตกรรมอีก คนในพื้นที่ก็ยังมาตายอีกสองคนติดๆ กัน .. หญิงสาวที่คาตายามาเจอบนรถไฟก็มาปรากฏตัวเป็นหลานสาวของหญิงชราที่ถูกฆาตกรรม เธอยังบอกว่าจะแต่งงานกับคาตายามาด้วย (^^’) … ปริศนาการตายของคนหลายคนเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า ? เกี่ยวกับเด็กๆ ที่ถูกจ้องเอาชีวิดได้ยังไง ? แมวมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ ? คาตายามาจะเป็นฝั่งเป็นฝาหรือไม่ ?.. โฮล์มส์ และคาตายามา คือผู้เฉลยคำตอบ

ข้าวแช่

บ่นอยากกินข้าวแช่ใน #tlwg มาหลายวัน พฤหัสที่ผ่านมามีโอกาสได้กินซักที .. หลายคนไม่รู้จักข้าวแช่ มักจะคิดว่าเป็นกระแช่ หรือไม่ก็ข้าวหมาก .. และหลายคนถึงจะรู้จักข้าวแช่ก็อาจจะคิดว่าเป็นอาหารหวานเพราะมันใส่น้ำแข็ง ที่จริงข้าวแช่เป็นอาหารคาว มีกับข้าวเข้าชุด คนไทยสมัยโบราณฉลาดจริงๆ สามารถทำอาหารคาวอร่อยๆ ใส่น้ำแข็งกินดับร้อนได้ดีนัก ทุกวันนี้จึงมักจะเห็นมีร้านอาหาร หรือโรงแรมจัดข้าวแช่มาบริการในช่วงฤดูร้อน .. อธิบายสั้นๆ ข้าวแช่ก็คือข้าวสวย ใส่ในน้ำเย็น บางทีก็จะมีน้ำแข็งลอย กินกับกับข้าวเป็นชุด .. ฟังดูแปลกๆ วิธีการดูทื่อๆ ไม่น่าจะกินอร่อย แต่บอกได้ว่ามีน้อยคนที่ได้กินข้าวแช่ครั้งแรกจะไม่ชอบโดยเฉพาะในหน้าร้อน :) .. และเท่าที่ค้นๆ เจอ วิธีการทำนั้นไม่ธรรมดาเท่าไหร่แฮะ (^^’) ..

มาเริ่มกันที่ข้าว
จะเป็นข้าวสวยหุงเป็นตัว เอาลงส่ายในน้ำให้ได้เม็ดข้าวเกลี้ยง แล้วลงแช่น้ำลอยดอกมะลิ แล้วอบด้วยเทียนอบ แช่เย็นหรือใส่น้ำแข็งเก็บในหม้อดิน กลิ่นข้าวแช่จะหอมเทียนอบ กับดอกมะลิจางๆ ทานเย็นๆ สดชื่นดี
กะปิทอด
เป็นกับข้าวหลักที่ขาดไม่ได้ และถือเป็นหัวใจของกับข้าวที่ต้องทำออกมาให้อร่อย วิธีทำคร่าวๆ คือเอากะปิโขลกกับเนื้อปลาดุกย่าง ปรุงรส ผัดกับหัวกะทิแล้วปั้นเป็นลูกๆ ชุบไข่ทอด .. เวลาทานจะไม่มีกลิ่น และแทบไม่รู้เลยว่าความเค็มมาจากกะปิ
พยิกหยวกยัดไส้
เอาพริกหยวกขนาดใหญ่ๆ หุ้มด้วยไข่ทอดเป็นแห ยัดไส้ด้วยหมูสับ ปรุงรสเผ็ดนิดๆ
หอมสอดไส้
เอาหอมแดงมาตัดปลายคว้านเนื้อออก ยัดไส้ด้วยเนื้อปลาปรุงรสเค็ม แล้วเอาไปชุบแป้งทอด
หมูสับปลาเค็ม
หมูติดมันสับละเอียดคลุกกะปลาเค็ม ปั้นเป็นลูกขนาดเท่าๆ ชุบไข่ทอด
ไชโป๊วผัดหวาน
ไชโป๊วหั่นเป็นเส้น ผัดกับน้ำตาล ใส่ไข่นิดหน่อย
ปลายี่สนผัดหวาน
เอาเนื้อปลาผัดกับน้ำตาลยีเป็นฝอยๆ บางแห่งอาจจะทำเป็นเนื้อหวานฉีกเป็นฝอยก็มี
ผักแกล้ม
กระชายสด มะม่วงดิบ แตงกวา ต้นหอม พริกหยวก

สมาชิกห้อง #tlwg บอกมาว่าใน ก.ท.ม. ข้าวแช่อร่อย อยู่แถวบางลำพู (ตรงไหนไม่รู้ ;P) .. หรือไม่ก็ต้องไปกินที่เพชรบุรี

ลืมบอกว่าดองบทความไว้หลายอัน ปล่อยไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว

  • Creative Common License .. ดองไว้นานมาก จนคุณ bact ตัดหน้าไปแล้ว :P
  • Fermat’s Last Theorem .. มีโอกาสได้ดูสารคดีเลยเอามาเล่าให้ฟัง
  • Ubuntu Customization .. ถ้าเจออะไรใหม่ๆ ก็จะ update เรื่อยๆ

Red Hat Enterprise Linux Clones

ไปอ่าน http://lwn.net มา เจอเรื่อง RHEL Clones เห็นหลายคนเคยถามว่าจะหา RHEL มาใช้ได้ไง ? เลยคิดว่าอันนี้น่าจะช่วยได้ เรื่องของเรื่องก็คือ RHEL ไม่มี binary ให้ดาวน์โหลดเหมือน RHL/FC ก็เลยเกิด distro ที่เอา srpm ของ RHEL มา rebuild + customize อีกนิดหน่อย ถ้าไม่อยาก rebuild เอง หรือซื้อ RHEL มาใช้เป็นเรื่องเป็นราว ก็ลองหา distro พวกนี้มาใช้ก็ได้:

BTW, สวัสดีปีใหม่ แบบไทยๆ เน้อะ

Ubuntu Customization

ติดตั้ง apache2 + php4 + mysql

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ sudo apt-get install apache2 php4 libapache2-mod-php4 php4-mysql

Config:

/etc/apache2/apache2.conf
/etc/apache2/mods-enabled/php4.conf
/etc/php4/apache2/php.ini
/etc/mysql/my.cnf

Locale ภาษาไทย

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ sudo dpkg-reconfigure locales

เลือก en_US ISO-8859-1, en_US.UTF-8 UTF-8, th_TH TIS-620 และ th_TH.UTF-8 UTF-8

ตั้งคีย์บอร์ดภาษาไทย

System -> Preferences -> Keyboard
Layouts -> Add ... -> Thai (Kedmanee) -> OK
Layout Options -> Group Shift/Lock behavior -> Alt+Shift changes group

ฟอนต์ภาษาไทย

  1. ดาวน์โหลดฟอนต์ TrueType ภาษาไทยจาก LTN ไฟล์ thai-ttf-x.x.x.tar.gz
  2. แตกไฟล์ thai-ttf-x.x.x.tar.gz
  3. สำเนา / ย้ายฟอนต์ TrueType (*.ttf) ไปไว้ที่ ~/.fonts

แก้ปัญหาตัวอักษรไทยแสดงผลเพี้ยนเมื่อใช้ hinting (autohinting)

auto hinting อาจจะทำให้การแสดงผลตัวอักษรไทยเพี้ยน ปิด auto hinting โดยแก้ในไฟล์ /etc/fonts/local.conf ค้นหาข้อความ “autohint” แก้ bool จาก true เป็น false

TrueType -> X11 Fonts

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ cd /path/to/fonts
$ mkfontdir
$ ttmkfdir > fonts.scale

เพิ่ม font path (/path/to/fonts/) ใน /etc/X11/xorg.conf

เพิ่ม font path ทันที

$ cd /path/to/font
$ xset fp+ `pwd`
$ xset rehash

ติดตั้ง TrueType ด้วย defoma

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ defoma-hints -c --no-question truetype /path/to/fonts/*.ttf > /etc/defoma/hints/myfonts.hints
$ defoma-font reregister-all /etc/defoma/hints/myfonts.hints
$ xset fp rehash

ใช้ bitmap fonts ใน fontconfig

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ cd /etc/fonts/conf.d/
$ sudo ln -sf /etc/fonts/conf.d/yes-bitmaps.conf 30-debconf-yes-bitmaps.conf
$ sudo fc-cache

root shell

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ sudo -s -H

หรือ

$ sudo su -

กรอกรหัสผ่านของ user ให้ sudo

เปลี่ยนรหัสผ่าน root

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ sudo passwd root

กรอกรหัสผ่านของ user ให้ sudo ก่อน จึงตั้งรหัสผ่านของ root

ล็อกอิน GDM ด้วย root

  1. ตั้งรหัสผ่านของ root
  2. System -> Administration -> Login Screen Setup

#แท็บ Security -> Allow root to login with GDM

ควบคุม services

  1. ไฟล์ใน /etc/rc?.d/ เป็น symlink ไป start up scripts ใน /etc/init.d
  2. Symlink name = S??* = run
  3. Symlink name = K??* = not run
  4. ทุก runlevels จะรัน /etc/rcS.d/*
  5. Default runlevel ของ Ubuntu คือ 2 ระบบจะ start up ที่ /etc/rc2.d/

ตั้ง debconf ให้ใช้ GUI

รันเทอร์มินัล

sudo dpkg-reconfigure debconf

เลือก Interface เป็น GNOME หรือ KDE

เลือก Priority ตามต้องการ (Low = ถามเยอะ, Critical = ถามน้อย)

ตั้ง mplayer ให้ใช้ XVideo และ ALSA

ใช้ text editor เปิดไฟล์ ~/.mplayer/config เพิ่มบรรทัด

vo=xv
ao=alsa

ตั้ง Nautilus CD Burner ให้ใช้งาน Burnproof

  1. Applications -> System Tools -> Configuration Editor
  2. apps -> nautilus-cd-burner
  3. เลือก burnproof

ตั้ง Nautilus CD Burner ให้ใช้งาน Overburn

  1. Applications -> System Tools -> Configuration Editor
  2. apps -> nautilus-cd-burner
  3. เลือก overburn

ตั้งอัตราเร็วในการเขียนซีดีสำหรับ Nautilus CD Burner

  1. Applications -> System Tools -> Configuration Editor
  2. apps -> nautilus-cd-burner
  3. แก้ default_speed เป็นค่าที่ต้องการ

ตั้ง Spatial Mode เป็นแบบต้นฉบับของ GNOME

  1. Ubuntu (Hoary) patch Nautilus ให้ spatial mode ทำงานโดยปิดวินโดว์ของไดเรกทอรีเดิมทุกครั้งที่เปิดวินโดว์ใหม่
  2. Applications -> System Tools -> Configuration Editor
  3. apps -> nautilus -> preferences
  4. เลือก no_ubuntu_spatial

ติดตั้ง NVIDIA driver

รันเทอร์มินัล สั่ง

$ sudo apt-get install nvidia-glx nvidia-settings
$ sudo nvidia-glx-config enable

เพิ่ม apt repository

  1. แก้ไฟล์ /etc/apt/sources.list .. หรือ
  2. เพิ่มบน Synaptic: Settings -> Repositories

Config Dial-Up Connection

  1. รัน pppconfig .. and follow the text-based user interface
  2. Authentication method ทดลองใช้ PAP ก่อน ถ้าไม่สามารถ login ได้ ให้ใช้ Chat
  3. Profile จะเก็บไว้ที่ /etc/chatscripts/
  4. รัน pon เพื่อ connect
  5. รัน poff เพื่อ disconnect

แอพพลิเคชันเสริม

ติดตั้งด้วย apt-get หรือ synaptic

Applications Packages
Macromedia Flash plug-in for Mozilla Firefox flashplayer-mozilla
Adobe Acrobat Reader acroread
Adobe Acrobat Reader plug-in for Mozilla Firefox acroread-plugin
Microsoft Core Fonts msttcorefonts
Planner (Project Management) planner
Scribus (Desktop Publishing) scribus
Blender (3D Modeller/Renderer) blender
Inkscape (Vector Drawing) inkscape
Xine xine-ui
Mplayer mplayer-{386|586|686|k6|k7}
Win32 Codec sw32codecs

ควรติดตั้ง recommended packages ด้วย

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน สังหารโหดอาจารย์

งดบันทึก blog + อื่นๆ ไปซะนาน วันนี้ release ซักหน่อย

ตอนที่สองของมิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ต่อจากเล่มแรก ทาคายามา โยชิทาโร ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากการเป็นตำรวจ แต่จนแล้วจนรอด เจ้านายของเขาก็ยังไม่ยอมให้เขาออกเสียที ฮารูมิ น้องสาวของทาคายามาเปลี่ยนงานจากพนักงานห้างสรรพสินค้า มาเป็นพนักงานต้อนรับอยู่โรงเรียนสอนพิเศษ เธอพยายามจับคู่พี่ชายกับ ทาเคโมริ ยูคิโกะ เจ้านายของเธอ ขณะเดียวกัน ก็มีนักเรียนท่าทางแปลก เข้ามาสมัครทุกคอร์สของโรงเรียน ฮารูมิแปลกใจเพราะหลายๆ คอร์สนั้นมีเวลาเรียนพร้อมกัน ผู้สมัครไม่สามารถจะเรียนพร้อมๆ กันทุกคอร์สได้แน่ แถมเบอร์โทรติดต่อของผู้สมัครรายนี้มันคุ้นๆ เหลือเกิน ด้วยความสงสัยเธอจึงให้พี่ชายติดตามสืบดู .. ภายหลังถึงรู้ว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ใกล้เคียงกับเบอร์โทรของตำรวจนครบาล ที่ทำงานของพี่ชายเธอนั่นเอง .. แถมชื่อผู้สมัครรายนั้นก็ตรงกับชื่อของเหยื่อฆาตกรรมเมื่อสองปีที่แล้ว ที่ยังไม่สามารถปิดคดีได้! และที่อยู่ที่กรอกในใบสมัครก็เป็นสถานที่เกิดเหตุนั่นเอง ! .. ทาคายามาคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ เขาได้รับอนุญาตให้รื้อฟื้นคดีนี้ ระหว่างตามสืบก็เกิดเหตุประหลาดขึ้นอีก อาจารย์ประจำโรงเรียนที่ฮารูมิทำงานอยู่ก็ทยอยกันตายทีละคนสองคน ปริศนาได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาคายามาซึ่งหลวมตัวเข้ามาสืบเรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้วนอกจากพยายามแก้มันให้ได้ .. ที่แปลกไปอีกอย่างคือ ครั้งนี้ทำไมโฮล์มส์ไม่ค่อยอยากช่วยอะไรเลย มันทำตัวเหมือนรู้ แต่ไม่ยอมบอกใบ้ทาคายามาเลยสักอย่างเดียว .. แมวตัวนี้แปลกจริงๆ

BTW, Ubuntu 5.04 Hoary Hedgehog release แล้ว :D

มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ ตอน ปริศนาศพนักศึกษาสาว

เพิ่งจะมีเวลาว่างพอจะอ่านหนังสือ เลยหยิบมาอ่านซะหนึ่งเล่ม .. มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ a.k.a แมวสามสียอดนักสืบ ญี่ปุ่นใช้ชื่อ mikeneko homozu no suiri ซีรีส์ของ ‘โฮล์มส์’ แมวสามสีที่ช่วยคลี่คลายคดีร่วมกับ ‘คาตายามา’ นายตำรวจอ่อนหัดที่เกลียดเลือดกลัวหญิง .. เล่มแรกเป็นตอน ‘ปริศนาศพนักศึกษาสาว’ เปิดตัว คาตายามา ซึ่งได้รับคำสั่งแค่ไปสอบถามข้อมูลของคดีนักศึกษาสาวถูกฆาตกรรมแทนหัวหน้า แต่กลายเป็นว่าพาตัวเองเข้าไปสืบสวนคดีนี้ไปด้วย .. แถมอาจารย์ที่เป็นคนติดต่อขอความช่วยเหลือในการสืบสวนกลับถูกฆาตกรรมในห้องปิดตายซะอีก เรื่องเลยยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ .. เมื่อไร้ที่พึ่ง โฮล์มส์ แมวของอาจารย์ที่ถูกฆาตกรรม เลยติดสอยห้อยตามคาตายามาไปเกือบตลอดเวลา .. และทุกครั้งที่คดีถึงทางตัน โฮล์มส์ ก็มักจะทำอะไรประหลาดๆ ให้คาตายามาแก้ปริศนาออกเสมอ .. เหมือนกับมันพยายามบอกใบ้เพื่อให้คาตายามาหาฆาตกรที่สังหารเจ้านายของมันให้ได้ .. การตายของนักศึกษา และการตายของอาจารย์เกี่ยวข้องกันหรือไม่ ? ตัวละครไม่กี่ตัวในตอนแรกนี้ ใครทำอะไรกันแน่ ? เกี่ยวโยงกันได้ยังไง ?.. ต้องอ่านแล้วมาคาดเดากันเอาเอง

นิยายของ อาคากะวา จิโร (Akagawa Jiro) ไม่ได้หักเหลี่ยมเฉือนคมเหมือนอาชญนิยายของนักเขียนชาวตะวันตกที่เคยอ่านๆ มา อ่านแล้วนึกถึงโคนัน หรือไม่ก็คินดะอิจิ .. อืม จะว่าไปแล้วอ่าน มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ นี่คล้ายๆ ได้อ่านการ์ตูนแฮะ :) ตอน ปริศนาศพนักศึกษาสาว นี่ซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเมื่อเดือนตุลาปีที่แล้ว เป็นการพิมพ์ครั้งที่หกแล้ว แต่จากคำนำบอกไว้ว่าในญี่ปุ่นพิมพ์มาแล้ว 89 ครั้ง .. ปกหลังให้ข้อมูลไว้ว่า อาคากะวา จิโร เป็นนักเขียนที่มีผลงานมากกว่าสี่ร้อยเรื่อง ยอดจำหน่ายรวมมากกว่า 270 ล้านเล่ม ไม่ธรรมดาเลย

DOObaDOO

ซื้อมาจนได้ นับเป็นซีดีเพลงไทยในรอบปีของผม .. ดูบาดู ประกอบด้วยสมาชิกสองคน คือ ลูกหว้า – พิจิกา จิตตะปุตตะ จบนิเทศฯ จุฬาฯ อดีตนักร้องของ CU band เคยเป็นนักร้องรับเชิญ ประสานเสียง อัดจิงเกิ้ลโฆษณามากมาย ผลงานที่ผ่านมารับประกันได้ว่า เธอร้องเพลงและใช้เสียงเป็น มากกว่านักร้องอีกหลายคน .. สมาชิกอีกคนคือ โอ๋ – เจษฏา สุขทรามร จบ ครุฯ ดนตรี จุฬาฯ เป็นรุ่นพี่ของลูกหว้า เคยเล่นตำแหน่งดับเบิลเบสใน CU band .. บอกชื่อนี้ไปก็ไม่รู้จักกันเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่า โอ๋ ซีเปีย เจ้าของเพลง เกลียดตุ๊ด อันลือลั่น หลายคนคงร้องอ๋อ .. อัลบั้ม EP ของซีเปียชุดแรกนั้นอาจจะทำให้ภาพของ โอ๋ ออกไปในทางดิบๆ เถื่อนๆ แนวๆ .. หลายคนคงไม่ค่อยรู้ว่า โอ๋ ซีเปีย เป็นนักเรียบเรียงเสียงประสานที่เก่งมากคนนึงของเมืองไทย เคยช่วยและศึกษางานกับ ดนู ฮันตระกูล อยู่พักนึง เรียบเรียงเสียงประสานให้ BSO ไหมไทย CU Symphony Orchestra จนถึงอัลบั้มพิเศษ Grammy Light Orchestra ของแกรมมี่ เรียบเรียงเสียงประสานเพลงชาติไทย 2 ใน 5 version รวมถึงเป็นโปรดิวเซอร์เบื้องหลังให้นักร้อง ศิลปินอีกมากมายเกือบทุกค่ายเพลง (ส่วน ปาเดย์ – ภาณุ กันตะบุตร มือเบสมาดเถื่อนของซีเปีย นั่นก็ใช่ย่อย มือปืนเบส ฝีมือดีของวงการเหมือนกัน)

เคยอ่านบทสัมภาษณ์ โอ๋ ซีเปีย เมื่อนานมาแล้ว เขาบอกว่าการทำงานเพลงดูโอกับนักร้องหญิงเป็นความไฝ่ฝันของเขา .. หลายปีก่อนเกือบจะได้ร่วมงานกับ ชมพู่ ละอองฟอง แต่เพราะชมพู่มีวงอยู่แล้วเลยพลาดไป ..ครั้งที่สองได้เจอ เสาวนิตย์ นวพันธุ์ นักร้องเสียงดี ดีกรีดนตรีจากนอก แต่งเพลงเก่งด้วย หลังจากทำเดโมไปเสนอ แกรมมี่ก็ดูดเสาวนิตย์ไป เขี่ยเดโมกับโอ๋ทิ้ง .. ดูบาดูนี้น่าจะเป็นความพยายามครั้งที่สามที่จะทำตามความไฝ่ฝัน โอ๋กะว่าถ้าไม่มีค่ายก็จะลงทุนทำเอง ก็พอดีคุยกับก้านคอคลับของโจอี้บอยรู้เรื่อง ดูบาดูเลยออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็น

ดูบาดู เสนอเพลงในแนว แจ๊ส สวิง คูล บ็อพ เป็นแกนหลัง เรียกว่างานนอกกระแส หรือหลุดกระแสไปเลย .. ลูกหว้าจะเป็นคนออกแบบเสียงร้อง ส่วนโอ๋ดูแลดนตรี เครื่องดนตรีส่วนใหญ่จะมี กลอง ดับเบิลเบส และกีต้าร์ (หลายแบบ แบบแปลกๆ ด้วย) บางเพลงมีเครื่องสาย เครื่องเป่า ออร์แกน เปียโน มาร่วมด้วย .. เสียงกลองกับดับเบิลเบสใช้การโปรแกรมเอา (ยกเว้น เพลงหน้าหนาวเอาปาเดย์มาเล่นเบส เพลงวินาทีเอาวิทยา ปานพุ่มมาตีกลอง) ..

แยกเพลง มิอาจวิจารณ์ บอกได้แต่ความรู้สึกตามนี้

  1. เก็บกระเป๋า – สวิง เพลงนี้ฟังแรกๆ ก็ธรรมดา แต่สักพักก็พบว่ามันเท่ห์ดี เรียบง่าย สบาย สงบเสงี่ยม
  2. ไม่ใช่ผู้ชาย – เพลงเร็ว เปิดตัว เนื้อหาน่ารักในตัวอยู่แล้ว สมแล้วที่ต้นคิดมาจาก โน้ส อุดม ได้ทรัมเป็ตมาสร้างเสียงสนุกๆ ในแนว Dixieland ดนตรีเต้นรำเสริมกันเข้าไปอีก
  3. วินาที – เห็นเพลงนี้เอา วิทยา ปานพุ่ม มาตีกลอง เลยออกจะตั้งใจฟังกลองเป็นพิเศษ .. ชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้มนี้ (ตอนนี้นะ)
  4. สุขุมวิท – แจ๊ส/บลูส์ เพลงเร็วไม่ต้องบ้าพลังก็ได้ มีสแก็ตสั้นๆ โซโลสนุก เล่นสดน่าจะมันส์ :)
  5. เมื่อคืนนี้ – สวิง/สโลว์ อารมณ์คิดถึงอย่างแรง เพลงนี้มีเครื่องสายมาเสริม ชวนให้นึกถึง Grammy Light Orchestra เสียดายที่เครื่องสายไม่สด
  6. คุณผู้ฟังที่รัก (หลังไมค์) – เพลงช้า เปิดตัว นี้เนื้อหากุ๊กกิ๊กดี ดนตรี-เสียงร้อง sexy เป็นบ้า ตั้งใจฟังเพลงนี้ดีๆ จะได้ยินลูกเล่นที่ใส่ไว้ (ไม่รู้ตั้งใจหรือเปล่า ;p)
  7. หน้าหนาว – เสียงร้อง กับ เปียโน และ เฟร็ตเลสเบส .. หลับตาฟังแล้วขนลุกเลย อีกคนที่น่าจะร้องได้แบบนี้คือ แอน คูณสามฯ
  8. ฝนจ๋า – สวิง สมเป็นเพลงชื่อฝน
  9. ขอ – Duet เสียงร้องกับกีต้าร์ .. ทึมๆ หม่นๆ เกือบจะ west coast ชอบเพลงนี้พอๆ กับ วินาที
  10. คุณนายมะขาม – บีบ็อพครับ ช็อคไปเลย .. ร้องเร็วมาก ไม่หลง ไม่หลุด ทำได้ไง (- -‘) .. ฟังน้ำเสียงในเพลงนี้ดีๆ ร้ายจริงๆ :)

รวบยอด ปกติผมไม่ชอบฟังเพลงร้อง โดยเฉพาะเพลงไทย แต่ ดูบาดู นี่ทำให้ได้ฟังเสียงร้องอย่างมีความสุข เพลงอัลบั้มนี้ร้องยากพอสมควรเลย แล้วลูกหว้าก็ร้องได้ดีมาก มีระเบียบ สมกับได้รับการฝึกฝนมาดี .. ดนตรีฝีมือ โอ๋ ซีเปีย เจ๋ง accompany ให้นักร้องอย่างที่ควรจะเป็น นักร้องได้แสดงศักยภาพเต็มที่ (อยากฟังเสาวนิตย์ ไม่ก็รัดเกล้า ร้องแบบนี้บ้าง) .. ขณะเดียวกันดนตรีก็มีความโดดเด่นในตัวเอง แม้ว่าจะใช้ดนตรีสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขัดหูหรือแข็งกระด้างจนน่าเกลียด ถ้าไม่ใช้เครื่องดนตรีสังเคราะห์น่าจะยิ่งดี .. สรุป ไม่ซื้อฟังแล้วจะเสียใจ

/me .. ความเห็นส่วนตัว bias .. ผิดๆ ถูกๆ .. ช่วยไม่ได้ :P

Blood Work

ภาษาไทยในชื่อ “ภารกิจเลือด” เป็นเรื่องของ เทอร์รี่ แม็คเคลเล็บ อดีตเจ้าหน้าที่เอ็ฟบีไอ เขาได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ และกำลังเริ่มชีวิตใหม่ เพราะสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยที่จะทำงานภาคสนามอีกแล้ว เขาจึงต้องคอยปฏิเสธการร้องขอจากผู้คนจำนวนมากที่อยากให้เขาช่วยเหลือในการสืบสวน .. กราเซียล่า ริเวอร์ส เป็นอีกคนที่มาขอร้องให้เขาช่วยสืบสวนคดีฆาตกรรมน้องสาวของเธอที่ดูแลโดยตำรวจท้องที่และไม่มีวี่แววว่าจะปิดคดีได้ในเร็ววัน เขาปฏิเสธไปเช่นเดียวกับทุกคน แต่เธอบอกเขาในสิ่งที่เขาไม่ควรจะได้รู้ นั่นคือ หัวใจที่เขาได้รับเปลี่ยนเป็นของกลอเรีย น้องสาวของกราเซียล่าที่ถูกฆาตกรรมนั่นเอง .. เพราะคดีอยู่นอกเหนืออำนาจของเขา เขาจึงรับปากได้แค่ว่าจะช่วยดู แต่เมื่อเขาได้เห็นหลักฐานก็ยิ่งทำให้เห็นว่าการสืบสวนของตำรวจมองข้ามไปหลายจุด .. คดีไม่เพียงซับซ้อนมากกว่าที่เห็น แต่ยังพัวพันกับตัวเขาเองอีกด้วย เพราะเขาเองก็เข้าข่ายคนที่ได้รับผลประโยชน์จากการตายของกลอเรีย .. ถ้าเขาพลาด เขาเองก็จะกลายเป็นเหยื่อไปด้วย ..

ไมเคิล คอนเนลลี (Micheal Connelly) อดีตเป็นนักข่าวอาชญากรรมประจำหนังสือพิมพ์ เมื่อมาเป็นนักเขียนจึงถ่ายทอดรายละเอียดอาชญากรรมและการสืบสวนสอบสวนได้อย่างสมจริง นับเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง และมีคนติดตามผลงานมากที่สุดคนหนึ่ง .. เรื่อง Blood Work เป็นผลงานลำดับที่ 13 ของเขา เป็นเล่มที่ได้รับรางวัลนวนิยายอาชญากรรมยอดเยี่ยมประจำปี และรางวัลอื่นๆ ในหลายประเทศ .. ภารกิจเลือดเดินเรื่องตามความคิดอ่านของ แม็คเคลเล็บ ชวนให้นักอ่านได้สนุกกับการคิด ตามหาตัวฆาตกร และหาสิ่งที่เชื่อมโยงเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกันเข้าด้วยกัน .. ตัวฆาตกรยังพอเดาได้ แต่ที่ยากจะเดาคือเจตนาที่แท้จริงของฆาตกร อันเป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด .. ตอนเรื่องคลี่คลายนี่เล่นเอาขนลุก จบแล้วต้องย้อนอ่านเป็นรอบที่สอง :P

ซีรีส์ของ เทอร์รี่ แม็คเคลเล็บ นี้เริ่มต้นที่ Blood Work และมีเล่มต่อให้เห็นแล้วคือ A darkness more than night .. มันส์ไม่แพ้กัน :)