Security in FOSS

อ่านที่ พี่เทพ blog เรื่องการจัดการ security ในเดเบียนแล้ว ระลึกได้ว่าเคยหลุดเข้าไปในขั้นตอนการจัดการ security ของ FreeBSD เมื่อหลายปีก่อน พบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกัน .. จะว่าไปแล้วมันก็เป็น practice อย่างนึงที่วัฒนธรรม FOSS นำมาปรับใช้ในการจัดการเรื่อง security เกือบทุกชุมชน

บ่อยครั้งที่ผู้สนับสนุน FOSS นำเอาเรื่อง security มานำเสนอว่าปลอดภัยกว่า proprietary/commercial software ในขณะที่กลุ่ม proprietary/commercial software ก็แย้งว่าการเผยซอร์สเป็นการเผยไต๋ทำให้โดนโจมตีได้ง่าย

ว่ากันตามตรง ช่องโจมตีมักจะพบโดย black hat มากกว่าพบโดยการรีวิวซอร์สโดย hackers (จริงๆ) หรือ maintainers และในปัจจุบันช่องโจมตีไม่ได้หากันที่ซอร์ส แต่หาจากไบนารีตรงๆ โดยเครื่องมือจำพวกดีบักเกอร์เนื่องจากผู้โจมตีจำเป็นต้องได้ข้อมูลขณะที่ไบนารีนั้นกำลัง execute จึงจะทำ bypass, overflow, หรือ กำหนด condition ได้ถูก ดังนั้นในแง่การหาช่องโจมตีจะเห็นหรือไม่เห็นซอร์สจึงไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่นัก และกลายเป็นว่าใช้ซอฟต์แวร์เผยหรือปกปิดซอร์สมันก็แย่พอๆ กัน แต่ในแง่การพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข หลักการของ FOSS ที่เผยซอร์สมีศักยภาพที่ดีกว่า หากผู้ใช้หรือชุมชนมาช่วยรีวิวได้มากพอ มัน ‘ควรจะ’ พบจุดบกพร่องได้เร็ว และได้รับการแก้ไขได้ไวกว่า .. Elias Levy (Aleph One / Bugtraq) เคยพูดเรื่องนี้ไว้ว่า

“Open Source Software certainly does have the potential to be more secure than its closed source counterpart. But make no mistake, simply being open source is no guarantee of security.”

FOSS ไม่ได้ปลอดภัยกว่า แต่มีศักยภาพที่จะปลอดภัยกว่า

นึกถึง

  • security mindsets ในขั้นตอน design
  • secure programming ในขั้นตอน coding
  • security tools (e.g. valgrind, flawfinder, … ) ในการตรวจสอบ code / binary
  • ฯลฯ

ทำได้ก็ลด security bugs/vulnerabilities ไปได้เพียบแล้ว :)

ทดสอบ MaxNet 4 Mbps

ผลทดสอบที่ speedtest.in.th

ผลทดสอบของ speedtest.net
กับ server ในไทย

กับ server ที่ Los Angeles

/me เร็วขึ้นก็ดีแล้ว ยังไงก็ดีกว่าเดิม (มั้ง)

Happy New Year 2010

Happy New Year 2010

.. เริ่มแต่เดี๋ยวนี้ ทำความดี เพื่อให้ชีวิตได้พบกับสิ่งดีๆ กันเถอะ :)

My new phone

HTC Touch / WM6 รวนดีนัก .. ออกเครื่องใหม่แล้ว


Image from HTC.com

สามเหตุผลหลักๆ …

  1. ทดแทนเครื่องเดิม
  2. พอซื้อไหว
  3. มันคือแอนดรอยด์

/me .. หลุดพ้นจาก Windows ได้อีกหนึ่งเครื่อง

Windows 7 – Mac OS X – kubuntu by CHIP

เพิ่งได้อ่านหนังสือ CHIP (ที่ทำงาน เป็นสมาชิกรายปี) ประจำเดือนพฤศจิกายน 2552 มีเรื่องทดสอบ Windows 7 – Mac OS X – kubuntu ว่าใครกันแน่เยี่ยมที่สุด .. จริงๆ ขึ้นว่า CHIP ไม่ต้องอ่านก็เดาได้ว่า CHIP จะให้ใครเยี่ยมที่สุด โดยเฉพาะช่วงเปิดตัวระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์ แต่อยากดูว่าจะเอาเหตุอะไรมาเป็นผลว่าเยี่ยมที่สุดบ้าง อ่านไปก็คิดไปว่า อืมม นะ .. quote ประโยคจากหนังสือมาให้ดูสักหน่อย

ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ไมโครซอฟต์อุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยไปแล้วถึง 39% ของช่องโหว่ทั้งหมดที่ตรวจพบ ส่วนแอปเปิ้ลทำได้ 18% และลินุกซ์ทำได้เพียง 14%

คำว่า “ทั้งหมดที่ตรวจพบ” ควรจะเปลี่ยนเป็น “ทั้งหมดที่ไมโครซอฟต์ -ยอมรับว่า- เป็นช่องโหว่” เพราะตัวเลขมันไม่เท่ากัน .. และ สถิติในปี 2009 ของ Secunia ซึ่งทำมาหากินกับเรื่อง security คงจะเห็นแย้งไปจากที่ CHIP พยายามบอก

ไมโครซอฟต์ตอบสนองด้วยการอัปเดตแพตช์แก้ไขได้รวดเร็วกว่าคู่แข่งทั้งสอง … กำหนดทุกวันอังคารที่สองของเดือนเป็น patch day แอปเปิ้ล ลินุกซ์ ไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน

patch day หนึ่งวันต่อเดือนนี่ถือเป็นมาตรการที่ช่วยให้เร็วแล้วหรือ ? จากที่ secunia แทร็ก Windows 7 มา 2 เดือน เจอ 4 vulnerabilities เป็น remote exploit 100% และยังแก้ไม่เสร็จ นี่เร็วแล้วหรือ ? และ ใช่ ลินุกซ์ไม่มีกำหนดแน่นอน เพราะมันไม่ต้องกำหนดแน่นอน มันออกแพตช์ได้ทุกชั่วโมง หรือสั้นกว่านั้น และไม่ว่ามันเป็น critical หรือไม่ ถ้ามันได้รับการแก้ไขมันแล้วก็ออกแพตช์ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอจนถึงรอบการอัปเดต

Kubuntu ไม่มีระบบตรวจสอบหรืออัปเดตอะไรทั้งสิ้น ผู้ใช้จะต้องคอยตรวจสอบข่าวสารจากเว็บไซต์ และทำการอัปเดตแพตช์ด้วยตัวเองแบบแมนนวล

ไม่ได้ใช้ apt ? และใน /etc/cron.daily/apt ตั้งไว้ให้เช็คอัปเดตอัตโนมัติทุกวัน และเวลาอัปเดตเสร็จแล้วก็ไม่ต้อง reboot ใหม่ทุกครั้งเหมือน Windows :P

ในขณะที่ลินุกซ์นั้น ผู้ใช้จะสามารถอัปเดตแพตช์หลังจากที่มีการตรวจสอบช่องโหว่ครั้งแรกเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น (แต่ความรวดเร็วนี้บางครั้งก็ส่งผลต่อเสถียรภาพของระบบด้วยเช่นกัน)

ความล่าช้าของไมโครซอฟต์ก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีปัญหาเรื่องเสถียรภาพ จะใส่วงเล็บหลังข้อความไปทำไม ? จงใจ mislead ?

Kubuntu หากผู้ใช้ต้องการความปลอดภัยก็จะต้องหาไฟร์วอลล์มาติดตั้งเพิ่มเติมด้วยตัวเอง

iptables มีมาพร้อมกับลินุกซ์แทบทุก distro และถ้า CHIP ยังไม่รู้ .. มันคือไฟร์วอลล์

Windows 7 ให้การปกป้องได้ดีที่สุด … ถ้าจะพิจารณาจากฟีเจอร์การป้องกันที่ Windows 7 มีให้ อย่างน้อยก็ถือว่าวมันเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถยืนหยัดและต่อกรกับแฮกเกอร์ในปัจจุบันได้ดีที่สุด ส่วนผู้ไช้ Mac OS X และ Kubuntu นั้นจะต้องคอยระวังตัวมากเป็นพิเศษเนื่องจากไม่มีไฟร์วอลล์และระบบป้องกันไวรัส อีกทั้งยังต้องคอยตรวจสอบแพตช์ด้วยตัวเองอีกด้วย

แม่เจ้า … Windows 7 มีช่องโหว่ตั้งแต่ alpha/beta เป็นช่องโหว่เดียวกับ XP/Vista ซึ่งเก่ากว่าหลายปี ไม่นับว่ามีช่องโหว่ที่ metasploit ยิงทีเดียวร่วง ตั้งแต่ก่อนจะ Release to Manufac. (RTM) ด้วยซ้ำ และที่ไมโครซอฟต์ต้องขนสารพัดระบบมาป้องกันตัว ก็เพราะมันจำเป็นต้องมี และ ณ เวลานี้ต่อให้มีก็ยังไม่พอจะทำให้ Windows 7 อยู่รอดปลอดภัยได้ .. ในขณะที่ OS อื่นไม่จำเป็นมากเท่า Windows 7 ส่วนหนึ่งเพราะไม่ใช่เป้าโจมตี และอีกส่วนหนึ่งเพราะมันปลอดภัยพอจะเอาตัวรอดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟร์วอลล์หรือป้องกันไวรัส

[Core 2 Duo 2.93 GHz ..] Cold Start Windows 7 ใช้เวลา 26 วินาที Mac OS X 28 วินาที Kubuntu 43 วินาที … ReadyBoost นั้นจะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของระบบให้สูงขึ้นอีกด้วยการนำไฟล์ที่ใช้บ่อยๆ ไปเก็บไว้ในแฟลชไดรฟ์ยูเอสบีที่มีอัตราในการอ่านข้อมูลโดยเฉลี่ยสูงกว่าฮาร์ดดิสก์

แปลก .. MacBook C2D 2.1 T7200 ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊ค 5400RPM Cold Start Ubuntu เสร็จภายในเวลา < 20 วินาที และเท่าที่ มีคนทำ bootchart ไว้ คือ 5 วินาที บน P8600 + SSD และถ้าไม่จำกัดที่ K/Ubuntu มี Linux LiveCD ยังใช้เวลา boot ไม่ถึง 10 วินาที

Kubuntu กลับทำได้น่าผิดหวัง ทั้งนี้ต้องตำหนิระบบการเข้าถึงทรัพยากรและซีพียูที่ไม่มีประสิทธิภาพของมัน … การก๊อปปี้ไฟล์จำนวน 1,239 ไฟล์ ขนาด 4.21 GB Kubuntu ใช้เวลานาน 2.12 นาที Windows 7 1.58 นาที Mac OS X 1.44 นาที

จริง .. default file system (Ext3) นับว่าช้าเมื่อเทียบกับ file system อื่นอีกหลายตัวที่มีในลินุกซ์ และ higher-level VFS ของ KDE/GNOME ก็เป็นตัวถ่วงได้อีก ถ้าต้องการให้เร็วกว่านี้ก็เปลี่ยน file system ได้ และไปใช้คำสั่งในคอมมานด์ไลน์แทน .. อีกด้านหนึ่ง Windows 7 ขณะก๊อปปี้ไฟล์ ใช้ I/O มากๆ UI ยังตอบสนองได้ปกติไหม ? ขยับเมาส์ได้หรือเปล่า ? :P

ไฟล์วิดีโอ HD … ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ๆ จะมีการจัดสรรการใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและมีการใช้ประโยชน์จาก GPU เพื่อช่วยประมวลผลข้อมูลบางชนิด เช่น วิดีโอ … Windows 7 จะใช้พลังประมวลผลของซีพียูเพิ่มขึ้นแค่ 16% ส่วน Mac OS X และ Kubuntu ทำให้ซีพียูทำงานเพิ่ม 22% และ 33% ตามลำดับ

เรื่องนี้ default ยอมแพ้ .. แต่ถ้ามี hyperthread / multicore ใช้ mplayer-mt ลดพลังประมวลผลได้ประมาณ 30% หรือมากกว่า .. หรือถ้ามีการ์ด NVIDIA ใช้ mplayer + VDPAU … ทั้งหมดนี้ขึ้นกับว่าจะ code ให้ใช้ฟีเจอร์พวกนี้หรือเปล่า ไม่มีระบบปฏิบัติการไหน – รวมถึง Windows 7 – มี system call ที่ใช้ GPU และ/หรือ playback video .. ดังนั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการนักหรอก

Kubuntu จะมาพร้อมกับเครื่องมือแบ็กอัพแบบง่ายๆ ซื่งไม่สามารถทำ Shadow Copy ของไฟล์ได้เลย

ใช้ NILFS2 ทำ continuous snapshot ได้ และอาจจะดีกว่า volume snapshot อย่าง Shadow Copy

หากรายชื่อจองโปรแกรมไม่ปรากฏขึ้นมาใน Program Manager … วิธีเดียวที่จะติดตั้งโปรแกรมได้จะต้องทำผ่านคอมมานด์ไลน์เท่านั้น

มะเหงก โหลด *.deb แล้ว double click ที่ icon ก็ได้

การติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมลงในระบบถือเป็นงานที่ง่ายและแทบไม่มีปัญหาใดๆ สำหรับ Windows 7 เพราะมันจะมาพร้อมกับฐานข้อมูลไดรเวอร์สำหรับอุปกรณ์เกือบทุกชนิด

คอมพิวเตอร์หลายเครื่องยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Windows 7 ก็เพราะมันไม่มีไดรเวอร์นี่แหละ และเครื่องที่ว่าบูต Ubuntu ใช้งานแบบ LiveCD ได้

ส่วน Kubuntu นั้นมาพร้อมกับไดรเวอร์มาตรฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้การค้นหาไดรเวอร์เฉพาะสำหรับอุปกรณ์บางอย่างยังเป็นเรื่องที่สำบากมาก และผู้ใช้ที่จะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ๆ ลงในระบบและใช้งานได้คงจะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญลินุกซ์เท่านั้น

อีกด้านหนึ่ง ก็เพิ่งจะได้อ่านจาก GNOME Journal ว่า เด็กหญิงอายุห้าขวบที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก กับพี่ชายอายุหกขวบที่เพิ่งอ่านหนังสือออก ช่วยกันติดตั้ง Ubuntu ได้เองโดยไม่มีใครคอยแนะนำ สนใจอ่านต่อได้ที่ The Un-Scary Screwdriver

Kubuntu ไม่มี Encryption

มี และทำได้หลายเลเยอร์

Kubuntu ไม่มี Antispyware

เพราะไม่จำเป็นต้องมี อย่างน้อยก็เวลานี้ และถ้าต้องการก็ติดตั้ง chkrootkit, rkhunter พอได้

Kubuntu พื้นที่สำหรับการติดตั้ง 10 GB

เพราะมันเป็น distro ไม่ใช่ OS มันเลยมีแอพพลิเคชันติดตั้งมาด้วย (อย่างน้อยก็ +OO.o, GIMP, …) และที่จริงใช้ไม่เกิน 4 GB.. อย่ามั่ว

Kubuntu ไม่มี System Security

ไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร แต่ถ้าหมายถึง Security Center ที่ไมโครซอฟต์พยายามผูกเป็นส่วนหนึ่งของ system สำหรับระบบปฏิบัติการอื่นมันไม่ใช่สิ่งที่ต้องมี

Kubuntu ไม่มี System Acceleration (e.g. ReadyBoost)

เพราะไม่ต้องมีก็เร็วได้

Kubuntu ไม่มีการแสดงรายละเอียดของไดรเวอร์

lshw, lsmod,lspci, lsusb, dmesg, /proc, ….

อืมม .. นะ .. IMHO .. CHIP (Thailand) อวยขนาดนี้ก็น่าเกลียดเกินไปหน่อย ถ้าทำไปด้วยความเขลาขนาดนี้ก็น่าเวทนา หรือถ้าแกล้งเขลาก็น่าอาย .. และนิตยสารแบบนี้ น่าเสียดายเงิน

.. blog บ่น ก็ยาวอย่างนี้แหละ :P

mini-ubuntuclub meeting @ Khon Kaen

สัปดาห์นี้ได้คุณ gumara มาอบรม ubuntu ที่ มข. ซะสามวัน หลังคอร์สอบรมจบแล้ว เย็นๆ ได้มีโอกาสไปนั่งกินนั่งคุยที่ ร้านหน้าไม้ มีสมาชิกไปสิบเอ็ดคน ไม่ต้องคิดอะไรมาก นั่งคุย นั่งกิน เฮฮาดี

ถึงเวลาจ่าย เสี่ยอับดุลอาสาเลี้ยงซะงั้น .. thx หลายๆ

RT: ภาพจากมื้อเย็นโดยพี่เทพ http://mltp.ly/d1302py

ฝนดาวตก Leonids

ตามกระแสดาราศาสตร์หน่อย ฝนดาวตก Leonids คืนนี้

  • ฝนดาวตก Leonids แปลว่า เกิดฝนดาวตก ณ พื้นที่ท้องฟ้า ตรงบริเวณ กลุ่มดาว Leo โดยเป็นผลที่เกิดจากเศษของ ดาวหาง Tempel-Tuttle
  • กลุ่มดาว Leo จะขึ้นที่ทิศตะวันออกเกือบจะเป๊ะ (Az 80-90 องศา) โดยโผล่หัวสิงห์ประมาณเที่ยงคืน
  • จะเห็นกลุ่มดาว Leo เต็มประมาณตีสอง และจะสามารถมองเห็นฝนดาวตกได้
  • ตามที่แปะไว้ที่ space.com ฝนดาวตก Leonids จะ peak เวลา 21:40 GMT 2009-11-17 เท่ากับ 04:40 2009-11-18 บ้านเรา ณ เวลานี้ กลุ่มดาว Leo จะอยู่ระหว่างมุมเงย (Alt) 40-70 องศา

ลอง simulate โดย stellarium ดูก็ได้