ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า เดินทางกระหน่ำมาก เข้า กทม. เกือบทุกอาทิตย์ .. ช่วงนี้คงได้ดองเค็ม blog สักพัก :P
เอางานเขียนเก่าๆ มาขัดตาทัพก่อนละกัน
GDictThai 0.0.2 คาดว่าจะออกต้นเดือนหน้า :P
ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า เดินทางกระหน่ำมาก เข้า กทม. เกือบทุกอาทิตย์ .. ช่วงนี้คงได้ดองเค็ม blog สักพัก :P
เอางานเขียนเก่าๆ มาขัดตาทัพก่อนละกัน
GDictThai 0.0.2 คาดว่าจะออกต้นเดือนหน้า :P
เรียงลำดับความเสียหายตามนี้ …
รวม 2,025 บาท โหะๆๆๆ …
ประกาศ ใครยืมชุดริง (4 เล่ม) ชุดอาร์ทิมิส ฟาล์ว (3 เล่ม) และ อย่าบอกใคร ส่งคืนด้วยนะ T_T
GDictThai 0.0.1 เขียนเลียนแบบ KDictThai ของท่าน donga .. ดาวน์โหลดได้ที่นี่
ก็เพิ่งได้เขียน GTK+ apps ครั้งแรกก็หนนี้แหละ (ที่ผ่านมาแฮ็คโค้ดชาวบ้านตลอด) รุ่นนี้การแสดงผลยังไม่ค่อยสวย ทนๆ ใช้ไปก่อน .. เอาไว้รุ่นหน้าจะปรับปรุงการแสดงผล พร้อมกับย้ายไปใช ้libglade :P
comments | bug reports ส่งไปยัง kitty at kitty dot in dot th เน้อะ
คาใจมาตั้งนานแล้วว่า D70 ที่ใช้มันโฟกัสไปด้านหลังของจุดโฟกัสนิดหน่อย เรียกอาการนี้ว่า back focus ซึ่งมีข่าวมาว่า D70 มีอาการนี้เป็นจำนวนพอสมควร เคยลองทดสอบเมื่อต้นปีไปแล้วหนนึง แล้วก็พบว่ามัน back focus นิดหน่อย วันนี้เลยตัดสินใจปรับระบบ AF เอง ดูว่าจะดีขึ้นหรือเปล่า
ก่อนอื่นโหลด focus test chart มาก่อน (google & download ได้ทั่วไป) ถ่ายภาพทำมุม 45 องศากับ chart โดยโฟกัสที่เส้นโฟกัส ถ้าภาพที่ได้มีเส้นโฟกัสคมชัดก็แสดงว่า AF ทำงานได้ดีแล้ว ไม่ต้องปรับ หากเส้นโฟกัสเบลอ แล้วไปชัดที่ระยะอื่น แสดงว่า AF โฟกัสไม่ค่อยตรง ก็ค่อยมาตั้ง AF กัน ..
สำหรับ Nikon D70 วิธีตั้ง AF แบบนอกตำราช่างคือ ปิดสวิตช์กล้อง ถอดเลนส์ออก หันหน้ากล้องเข้าหาตัวแล้วกระดกกระจกขึ้น จะมองเห็นน็อตเล็กๆ สองตัวอยู่ทางขวามือ ด้านหน้าอยู่ต่ำๆ หนึ่งตัว และด้านหลังอยู่ใกล้ๆ ม่านชัตเตอร์อีกหนึ่งตัว น็อตตัวที่อยู่ใกล้ม่านชัตเตอร์เป็นตัวปรับระยะ AF วิธีปรับให้เอาหกเหลี่ยมขนาด 2mm หมุนเพื่อปรับระยะโฟกัส ถ้าหมุนตามเข็ม จะเป็นการปรับโฟกัสให้ขยับมาด้านหน้า และถ้าหมุนทวนเข็มจะปรับระยะโฟกัสไปด้านหลัง ค่อยๆ หมุนแล้วประกอบเลนส์บันทึกภาพทดสอบกับ focus test chart ดูไปเรื่อยๆ
การบันทึกภาพทดสอบให้ใช้ขาตั้งกล้อง + remote หรือไม่ก็ตั้งเวลาถ่ายภาพเอา กล้องจะได้ไม่สั่น ปรับหน้ากล้องให้กว้างสุด (F ต่ำสุด) และให้อยู่ใกล้วัตถุที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ที่ AF จะทำงาน ถ้ามีเลนส์หลายตัว ให้ทดสอบดูทุกตัว
สุดท้ายละ .. งานนี้ต้องการพื้นที่ทำงานที่สะอาด แนะนำว่าหาถุงมือ latex มาใส่จะได้ไม่มีฝุ่น ข้อมูลเรื่องนี้จากบางเว็บแนะนำให้ใช้ CCD cleaning mode เพื่อกระดกกระจกค้างไว้ ผมว่าไม่ค่อยปลอดภัย เพราะฝุ่นผงอาจจะหลุดไปติดที่ CCD ได้ หรือเกิดหกเหลี่ยมไปกระทบหน้า CCD คงจะดูไม่จืด .. และการปรับถึงจะดูเหมือนง่าย แต่ถ้าไม่มั่นใจ ยังอยู่ในระยะประกัน และยอมเสียเวลาไปศูนย์ฯ ที่สีลมได้ ก็ถือกล้องไปดีกว่านะ :P
ไปเที่ยวเกาะเกร็ดมาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว อากาศร้อนมั่กๆ แต่เกาะเกร็ดก็มีอะไรน่าเที่ยวน่าไปเยี่ยมชมเยอะนะ ..
[nggallery id=45]
ทริปนี้มีไม่กี่ภาพ แถมหนักไปทางของกิน :P ..
ADSL Router เจ๊งอีกแล้ว ตัวที่สองในสัปดาห์เดียว วันเสาร์เอาไปเคลม King Intelligent Tech. เปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย โหะๆ .. แต่ตัวใหม่นี่ ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ถ้าหมดประกันหรือเจ๊งแล้วเคลมไม่ได้ก็ไปซบ LinkSys ละ ..
ช่วงนี้เบื่อๆ ซึมๆ แฮะ สงสัยอดกาแฟ แถมฝนตกชวนนอนทั้งวัน จะออกไปถ่ายรูป ไปออกกำลัง อดหมด (- -‘) .. ค้นๆ รูปมารีทัช เป็นรูปที่บันทึกแถวๆ สนามหญ้าหน้าที่ทำงาน
Script-Fu Rulez !
หลังจากเอา Seagate Momentus 60 GB 5400.2 มาใช้บนลินุกซ์ สักพักก็เห็นอาการแปลกๆ ตั้งแต่วันแรกๆ คือไฟฮาร์ดดิสก์จะติดเกือบตลอดเวลาแม้ว่าไม่ได้อ่านหรือเขียนอะไร .. หาสาเหตุอยู่นานเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่า gam ทำงาน แต่ก็ไม่ใช่ ลอง kill process ทิ้งทีละตัวก็ไม่หาย จนนึกว่าเป็นที่ฮาร์ดแวร์เองหรือเปล่า ก็ไม่ใช่อีก เพราะบนวินโดว์สมันไม่เป็น มันเกิดเฉพาะกับลินุกซ์ และเป็นกับเคอร์เนลทุกตัวที่มีอยู่ในเครื่อง .. เลยค่อยๆ ทดสอบ combination ของ hdparm ดู แล้วก็เจอว่า ถ้า disable APM (-B 255) ตามด้วย check IDE power status (-C) แล้วอาการจะหายเป็นปลิดทิ้ง (- -‘) … สาเหตุมาจากอะไรก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ disable APM ไปก็ไม่เดือดร้อนอะไร ค่าที่เซ็ตก็ไม่ได้อันตรายกับข้อมูลหรือดิสก์ ไฟสถานะก็ติดเฉพาะตอนอ่านเขียนจริงๆ เหมือนปกติิ .. อืมม .. ปล่อยเลยตามเลยไปละกัน ยังไงก็ประกันห้าปี… ลอล
วันเสาร์ที่ผ่านมาฝนตกหนักๆๆ จนทำให้ ADSL ใช้งานไม่ได้ .. โทรไป call center บอกอาการไปเขาก็สงสัยว่าจะเป็นกะสายสัญญาณ ซึ่งต้องรอวันจันทร์ถึงจะมีช่างเข้าไปเช็ค จ๋อยซะ .. ต้องกลับมาซบ TOT Online เป็นการชั่วคราว
วันอาทิตย์ ไปเดินๆ หาซื้อฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ กะว่าจะเอา Seagate Momentus 60 GB 5400 RPM ประกัน 5 ปี .. ราคาที่สืบมาคือราวๆ ห้าพัน+ .. เดินผ่านร้านแรกแปะไว้ 5500 อืม พอกัดฟันซื้อไหว (เดือนนี้จนอีกแล้ว กลับมาทำงานเก็บเงินไม่ได้ซักเดือน มีเรื่องจ่ายตลอดสิน่า !) .. ไปกด ATM กลับมา กะว่าเดินดูซักรอบ ถ้าไม่มีร้านอื่นก็คงเอาราคา 5500 นี่แหละ .. ก็ไปเจอร้านนึง รุ่นเดียวกันเป๊ะๆ เขาบอกราคา 4500 .. เหวอ ! .. ห่างกันไม่กี่สิบสิบก้าวลดไปพันนึงแน่ะ .. รุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ ร้านอื่นก็ไม่มีขายด้วย ก็เลยตัดสินใจซื้อ ต่อราคาได้อีกนิดหน่อย :D .. บ่ายวันอาทิตย์เลยเข้าสูตร ลง Win XP + Chantra ตามด้วย Breezy Preview ทดสอบดู อืม .. GNOME 2.12 เรียบง่าย น่าใช้ ไม่รู้สึกช้า (เพราะ cairo) อย่างที่กลัวๆ ไว้ .. แต่เจอปัญหากับโจทย์เก่า อาการเดิม คือ Evolution ไม่แสดง address book กับ calendar เก่า อิมพอร์ตก็เพี้ยนๆ แถมลบข้อมูลไม่ออกอีกต่ะหาก .. นั่ง hack พักนึง ไม่ค่อยได้เรื่องก็ลาล่ะครับ กลับไปใช้ Hoary + Kitty เหมือนเดิม .. ไว้รอตัวจริงค่อยว่ากันอีกที ช่วงใช้ Breezy Preview ประมาณหกชั่วโมง มี update เกือบสิบ packages … ขยันกันจริงๆ :P
วันจันทร์ ติดต่อเพื่อนที่ call center ให้เช็ค ADSL ให้ ปรากฏว่า data comm ปกติ ก็เหลือแต่เรื่องสายสัญญาณ .. เพื่อนก็เลยส่งช่างมาเช็คสายที่บ้าน .. ช่างตรวจดูแล้ว ทุกอย่างปกติ .. สงสัย ADSL router จะเจ๊งแล้วแหละ ! .. ซวยจริงตู T_T
วันอังคาร ช่างเขาถือ notebook มาพร้อม ADSL modem มาทดสอบก็ปรากฏว่าใช้งานได้ .. สรุป คงจะเป็นที่ ADSL router จริงๆ .. บ่ายแก่ๆ เลยเอาไปเคลมที่ King Intelligent Tech. (distributor ของ Surecom) สาขาขอนแก่น .. 15 นาที ได้ตัวใหม่กลับมา King เจ๋งจริงๆ ไม่เรื่องมาก เหมือน (ตู๊ดๆๆ – โดนดูดเสียง) … เย็นๆ ADSL ที่บ้านใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว โหะๆๆ .. :D
ที่จริงก็ไม่ได้อยากอัปเกรดเท่าไหร่ แต่ทางศูนย์คอมพิวเตอร์เขาขอมา เลยจัดให้ :P .. จะว่าไปแล้ว BIND 9 ก็น่าสนใจตรงที่มันใช้ rndc + chroot ได้ และมีความปลอดภัยสูงขึ้น .. ถ้าเป็น FreeBSD >= 5.3 เข้าใจว่ามี BIND 9 มาให้เลย ส่วน FreeBSD 4.x และ 5.x < 5.3 นี่ต้องติดตั้งจาก ports เอา
เริ่มติดตั้ง
# cd /usr/ports/dns/bind9 # make # make install
rndc ใช้ irq มาทำเป็น entropy pool ยิ่งอุปกรณ์มีข้อมูลเข้า/ออก random มากๆ ยิ่งดี เขาแนะนำให้ใช้ irq ของ keyboard, mouse, disk, หรือ network interface cards .. ผมไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ keyboard/mouse เท่าไหร่ เพราะพวกเซิร์ฟเวอร์หลายๆ ตัวไม่ได้ต่อไว้ด้วยซ้ำ ข้อมูลอาจจะไม่ random อย่างที่ต้องการ .. เลือก disk หรือ network interface cards น่าจะดีกว่า
# grep -i irq /var/run/dmesg.boot
เพิ่ม irq เป็น entropy pool ของ rndc
# rndcontrol -s 12 # rndcontrol -s 14
ถ้าจะให้ใช้ได้ตั้งแต่ boot ก็แก้ /etc/rc.conf เพิ่ม
rand_irqs="12 14"
จากนั้นก็สร้าง config ของ rndc
cd /usr/local/etc rndc-confgen > rndc.conf
แล้วก็สร้าง key
rndc-confgen -a
จะได้ไฟล์ rndc.key แล้วก็แก้ rndc.conf อีกนิดหน่อย เพื่อเอา key ใน rndc.key มาใส่
vi /usr/local/etc/rndc.conf options { default-key "rndc-key"; default-server 127.0.0.1; default-port 953; }; server 127.0.0.1 { key "rndc-key"; }
ก๊อป key “rndc-key” {…} จาก /usr/local/etc/rndc.key มาใส่ใน /usr/local/etc/rndc.conf เป็นอันเสร็จเรื่องของ rndc
ถ้าใช้ BIND 8 มาก่อน เอา config และ zone files ของ BIND 8 มาแก้นิดๆ หน่อยๆ แล้วใช้กับ BIND 9 เลยก็ได้ ดังนั้น ก๊อปปี้ named.conf ของ BIND 8 มาไว้ที่ /usr/local/etc/named.conf แล้วก็แก้อีกนิด เพื่อเอา rndc มาใช้
include "/usr/local/etc/rndc.key"; controls { inet 127.0.0.1 allow { 127.0.0.1; } keys { "rndc-key" }; };
และใน options { … } เพิ่ม pid-file ” … ” กับ dump-file ” … ” เข้าไปด้วย
options { ... directory "/path/to/namedb" pid-file "/path/to/namedb/named.pid" dump-file "/var/tmp/named_dump.db" ... };
เสร็จแล้ว อย่าลืมเช็ค zone {… } กับ zone file ให้ตรงกัน
แก้ไฟล์เสร็จก็ เปลี่ยน owner/groups ของไฟล์เป็น uid ที่จะรัน named .. ปกติจะใช้ user bind รัน named ก็
chown -R bind:bind /path/to/namedb chmod 750 /path/to/namedb
เช็ค named.conf
named-checkconf /usr/local/etc/named.conf
ทดสอบ
/usr/local/sbin/named -c /usr/local/etc/named.conf -u bind -g
ถ้า named รันได้โดยไม่มี error/warning ก็เป็นอันเรียบร้อย … สุดท้ายก็แก้ /etc/rc.conf
vi /etc/rc.conf named_enable="YES" named_program="/usr/local/sbin/named" named_flags="-c /usr/local/etc/named.conf -u bind"
ทีนี้ตอน boot ก็จะรัน BIND 9 แทน BIND 8 .. เสร็จแล้ว :)
ได้แผ่นติดตั้ง Chantra มา เมื่อครั้งไปขอสัมภาษณ์ประธานบอร์ดบริหาร SIPA ประกอบกับฮาร์ดดิสก์เจ๊งไป ก็เลยได้โอกาสเอามาติดตั้งใช้บนวินโดว์สเอ็กซ์พี ..
Chantra รวบรวมโปรแกรมที่ใช้งานบนวินโดว์ส ทุกตัวเป็นโอเพ่นซอร์ส ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ autorun จะพาเข้าเมนูการเลือกโปรแกรมติดตั้ง เขาจัดหมวดหมู่ของโปรแกรมไว้แล้ว พร้อมคำอธิบายโปรแกรมต่างๆ ว่าไว้ใช้ทำอะไร มีสกรีนช็อตให้ดู และมีพวกส่วนเสริม (e.g. ปลั๊กอิน, extensions) ที่น่าใช้รวมไว้ด้วย ที่สั่งติดตั้งไปก็มี OO.o2, Thai Firefox Community Edition, Gaim, VLC และ PuTTY
Chantra ยังมีซอฟต์แวร์อื่นๆ อีกหลายตัว รองรับทั้งการใช้งานในสำนักงาน ใช้อินเทอร์เน็ต และเพื่อความบันเทิง เรียกว่าทดแทนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ทั้งหลายที่ต้องหาซื้อมาราคาแพงๆ (หรือถูกๆ เถื่อนๆ) ได้สบาย
ดาวน์โหลดแผ่นติดตั้ง Chantra ได้ที่ ftp://thaiopensource.org/software/chantra/chantra-1.0.iso