Tag Archives: book

ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน

ซัทสึกิ และ ยาโยย เด็กสาววัย 9 ขวบเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสองชอบชวน เคน พี่ชายของยาโยยไปเล่นด้วยเสมอ .. วันหนึ่งขณะที่ ซัทสึกิและยาโยยนั่งรอเคนอยู่บนกิ่งไม้ ยาโยยได้สารภาพว่าเธอชอบเคน ในขณะที่ซัทสึกิก็สารภาพอย่างเดียวกัน .. ขณะนั้นเอง เคนกำลังเดินมาหาทั้งสองที่ต้นไม้ เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น .. หนึ่งในสองเด็กสาวตกจากต้นไม้ และตายอยู่ใต้ต้นไม้นั่นเอง .. เรื่องราวของการหลบเลี่ยง ซ่อนศพ ก็เริ่มต้นจากตรงนี้เอง .. แล้วใครกันจะเล่าเรื่องนี้ได้ดีไปกว่าศพ ?

โอตสึอิจิ เขียนเรื่อง Natsu To Hanabi To Watashi No Shitai เมื่ออายุได้เพียง 17 ปี เป็นผลงานชิ้นแรกที่เขาเปิดตัว และเรื่องนี้ก็ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในวงการนักเขียนนวนิยายแนวลึกลับตั้งแต่นั้นมา .. สำหรับฉบับภาษาไทยได้รับการแปลโดยคุณ พรพิรุณ กิจสมเจตน์ น่าจะเคยวางขายในงานหนังสือหลายหนแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสหยิบมาอ่านเมื่องานหนังสือครั้งที่ผ่านมา ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน เป็นเรื่องสั้นที่ดำเนินเรื่องได้ตื่นเต้นหักมุมเกินคาด และเลือกใช้ "ศพ" เป็นคนเล่าเรื่อง .. และในเล่มเดียวกันยังมีเรื่องสั้นเรื่อง "ยูโกะ" ชื่อของนายหญิงที่สาวใช้นามคิโยเนะรับใช้มาตลอด แต่ไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย .. เป็นอีกเรื่องที่จบชนิดคาดไม่ถึงเช่นกัน

รอยสักรูปหมา

งานหนังสือคราวที่ผ่านมาหยิบเอา รอยสักรูปหมา ของ โอตสึอิจิ มาพลิกดู .. คนขายที่บูธบอกว่า งานของโอตสึอิจิมักจบแบบหักมุมแบบคาดไม่ถึง อ่านสนุกนะ .. เลยหยิบมาซะหลายเล่มทั้งที่ไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่ เพราะยังไม่เคยรู้จักนักเขียนคนนี้มาก่อน (- -‘)

รอยสักรูปหมา (Hiramen Inu) รวมเรื่องสั้นสี่เรื่องที่ให้อารมณ์ nostalgia ปนกับจินตนาการที่ออกจะสยองขวัญนิดๆ ผลงานเล่มนี้ได้รับการแปลโดยคุณ พรพิรุณ กิจสมเจตน์ .. ด้วยไม่เคยอ่านงานของโอตสึอิจิ ไม่รู้มาก่อนว่่าจะออกแนวไหน เปิดอ่านหน้่าแรกๆ เลยรู้สึกขัดนิดๆ สำหรับเล่มนี้จินตนาการจะเกินจริงไปบ้าง แต่เนียน กระชับ สร้างอารมณ์ร่วมได้ดี และปิดเรื่องได้ยอดเยี่ยม ทั้งหักมุม จับใจ น่าทึ่ง บางครั้งน่าขนลุก

โอตสึอิจิ เป็นนามปากกาของ ฮิโรทะกะ อาดาจิ นักเขียนเรื่องสั้นแนวสยองขวัญที่เปิดตัวผลงานชิ้นแรกตั้งแต่อายุ 17 แล้วก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักอ่านในญี่ปุ่นตั้งแต่นั้นมา สำหรับบ้านเราอาจจะได้เห็นผลงานผ่านตามาแล้ว อาทิ ฉันหายไปในวันหยุด ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน นัดหมายในความมืด โทรศัพท์สลับมิติ .. ปัจจุบันผลงานของโอตสึอิจิถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ การ์ตูน อยู่หลายเรื่อง .. ปีหน้าเขาจะอายุ 30 อนาคตยังไปได้อีกไกล

ฆาตกรรมในโรงเรียน

มาจิโกะกำลังจะย้ายจากโอซาก้าไปอยู่โตเกียวตามครอบครัว เย็นวันนี้เธออยากไปเดินเล่นดูโรงเรียนเป็นครั้งสุดท้าย และเป็นวันนี้เองที่เพื่อนของเธอฆ่าตัวตายต่อหน้าเธอ …

ยังไม่ทันที่เธอจะรู้จักเพื่อนใหม่ในโรงเรียนแห่งใหม่ในโตเกียวได้ดีนัก หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องของเธอก็ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งภายหลังเธอบังเอิญได้รู้ความจริงว่าเป็นการฆาตกรรม … ไม่ทันจะได้คลี่คลายคดีเดิม คดีใหม่ก็เกิดตามมาอีก .. ด้วยรู้ว่าการตายของเพื่อนเธอไม่ใช่อุบัติเหตุ เธอจึงแอบสืบหาฆาตกรอย่างลับๆ โดยมีเพื่อนชายของเธอคอยช่วยเหลือ .. ไม่นานเธอก็พบว่าการตายของเพื่อนร่วมห้องของเธอเกี่ยวข้องกับโรงเรียน และฆาตกรก็เป็นคนในโรงเรียนนี้เอง … เรื่องเหมือนจะคลี่คลายและจบได้โดยง่าย แต่ความจริงไม่ใช่ … ไม่ใช่แค่นั้น …

“ฆาตกรรมในโรงเรียน” แปลมาจากเรื่อง Shisha no Gakuensai ของ อาคากะวา จิโร ผู้แต่งซีรีส์แมวสามสีและซายะกะนั่นเอง เรื่องนี้แปลโดยคุณ ปัญจารีย์ จารีธนารักษ์ นักแปลหน้าใหม่ฝีมือไม่แพ้รุ่นพี่ๆ .. สำหรับ ฆาตกรรมในโรงเรียน อาจจะมีอารมณ์ขันน้อยไปสักนิดและบรรยากาศค่อนข้างจริงจังเมื่อเทียบกับซีรีส์ดังทั้งสองเรื่อง อย่างไรก็ตามความสนุกสนานและเงื่อนปมต่างๆ ยังคงไว้ลาย อาคากะวา จิโร เรื่องนี้ยังถูกนำไปเขียนเป็นการ์ตูนและทำเป็นภาพยนตร์ด้วย .. แต่เวอร์ชันหนังสือน่าจะหนุกสุดแล้ว :)

/offtopic .. อ่อ วันนี้สองพรรคใหญ่ คงวุ่นๆ สินะ …

อาร์ทิมิส ฟาวล์ และ อาณาจักรที่สาปสูญ

อาร์ทิมิส ฟาวล์ อาชญากรอัจฉริยะวัย 14 ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าจนพบเผ่าที่หายสาปสูญ “ชาวดีมอน” ผู้อยู่เหนือกาลอวกาศ ในโลกปกติไม่มีทางที่จะพบเห็นชาวดีมอนได้เลย แต่อาร์ทิมิสสามารถถอดสมการเพื่อหาตำแหน่งและเวลาที่ชาวดีมอนจะปรากฏตัวบนโลกได้ และเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก อาร์ทิมิสเดินทางไปทั่วโลกเพื่อดักรอการปรากฎตัวของชาวดีมอน แม้จะพลาดหลายครั้ง แต่ในที่สุด อาร์ทิมิส ก็ได้พบชาวดีมอน สมการของเขาสามารถทำนายการปรากฎตัวของเผ่าพันธุ์ที่สาปสูญได้จริง .. แต่ไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียวที่สามารถทำนายได้ อาชญากรฝ่ายตรงข้ามผู้เป็นอัจฉริยะไม่น้อยกว่าอาร์ทิมิสก็ทำได้เช่นกัน และเป้าหมายของศัตรูผู้นี้คือการเข้าถึงดีมอนก่อนอาร์ทิมิส .. เรื่องยุ่งไปกว่านั้น เมื่ออารยธรรมของชาวดีมอนกำลังเข้าสู่วิกฤติครั้งใหญ่ หากแก้วิกฤติไม่ทันชาวดีมอนทั้งหมดจะหายไปตลอดกาล .. เป็นอีกครั้งที่ อาร์ทิมิส เป็นส่วนสำคัญในการกู้วิกฤติของชาวพีเพิล พร้อมกับ บัตเลอร์ ฮอลลี่ โฟลลี่ และ มัลช ในขณะที่ศึกอีกด้านเขาก็ต้องสู้กับศัตรูที่เปรียบเสมือนเป็นเงาของเขาเอง

อาร์ทิมิส ฟาวล์ และ อาณาจักรที่สาปสูญ แปลจาก Artemis Fowl and the Lost Colony ของ โอเวน โคลเฟอร์ (Eoin Colfer – Eoin ออกเสียงเป็น Owen) โดย คุณรชต ประชาเรืองวิทย์ เป็นเล่มที่ 5 ในซีรีส์อาร์ทิมิส ฟาวล์ สำหรับผู้ที่ชอบอาร์ทิมิส ฟาวล์ ได้อ่านแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ในเล่มนี้จะได้เห็นมิตรภาพที่อบอุ่น การผจญภัยในโลกแห่งจินตนาการที่สนุกสนาน ความเป็นอัจฉริยะของอาชญากรตัวน้อย พร้อมมุกขำๆ ตลอดเล่ม .. และถ้าสังเกตดูจะเห็นว่ามีเกมส์ให้เล่นสนุกๆ ด้วย

เล่มหน้าได้ชื่อตอนแล้วว่า The End of All Time คาดว่าจะเป็นเล่มสุดท้ายในซีรีส์นี้

ปริศนาคำสารภาพ

คะจิ โซอิชิโร สารวัตรประจำกองบัญชาการกลางเข้ามอบตัวกับตำรวจในข้อหาฆ่าคนตาย เขาสารภาพว่าฆ่าภรรยาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ เรื่องควรจะจบอย่างง่ายๆ หากเพียงแค่เขาเข้ามอบตัวทันที แต่กลับเป็นว่าเขาเข้ามอบตัวหลังจากนั้นสองวัน .. เขาหายไปไหน ? แม้แต่สารวัตรชิคิ คะซุซะมะ ก็ไม่สามารถทำให้คะจิสารภาพได้ .. เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเมื่อกรมตำรวจเองก็ต้องการให้ปกปิดเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เสียชื่อและถึงกับมีการต่อรองกับอัยการอย่างลับๆ .. หลายฝ่ายเชื่อว่าคะจิคงอยากฆ่าตัวตายตามภรรยา แต่เขาไม่ทำและยังทิ้งปริศนา “50 ปีชีวิตมนุษย์” ไว้อีก .. คะจิไม่ยอมเอ่ยปากว่าเขาหายไปไหนก่อนจะมอบตัว .. เพราะอะไร ? เขากำลังปกป้องใคร ? 50 ปีชีวิตมนุษย์ที่เขาเขียนทิ้งไว้หมายความว่าอย่างไร ? คำถามมากมายที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องอยากรู้

ปริศนาคำสารภาพ แปลจาก Hanochi ของ โยโกยามา ฮิเดะโอะ หนึ่งในนักเขียนฝีมือดีที่ได้รับรางวัลมากมาย สำหรับเรื่องปริศนาคำสารภาพได้รับการจัดอันดับอยู่ที่หนึ่งในอันดับนวนิยายแนวลึกลับจากวารสารในญี่ปุ่น และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2004 ภาคภาษาไทยแปลและเรียบเรียงโดย คุณวราภรณ์ พิรุณสวรรค์ ผู้แปล เบิร์ทเดย์ ปริศนาผู้สูญหาย ปริศนาใต้บาดาล และ บันได 13 ขั้น ปริศนาจากแดนประหาร ส่วนตัวแล้วชอบวิธีการเล่าเรื่องที่ใช้วิธีการเขียนเล่าจากมุมมองผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ สารวัตรสืบสวน อัยการ นักข่าว ทนาย ผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เขียนแยกบทผ่านสายตาของแต่ละคน หากยังคงดำเนินเรื่องได้ลงตัวโดยมีตัวละครคนสำคัญและปมปริศนาเป็นศูนย์กลาง

คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 8 – อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน

ยาชิโระ โทระตะ เป็นนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนกระจอกๆ คนหนึ่ง เขาเป็นเพื่อนของ เซ็งโงะกุ นาโอกิ ซึ่งบังเอิญมีบ้านเกิดที่เดียวกัน จริงๆ แล้วทั้งสองไม่เชิงเป็นเพื่อน เพราะ นาโอกิกดขี่ ถากถางโทระตะเป็นประจำเสียจน โทระตะไม่ใส่ใจ อีกอย่างที่ทำให้ โทระตะ ทนได้ก็เพราะ นาโอกิ เป็นคนอุปถัมภ์ช่วยเหลืออยู่เรื่อยๆ แม้ความช่วยเหลือนั้นทำไปเพื่อหวังผลตอบแทนอย่างชัดเจน ทั้งสองจึงไม่ได้ไว้ใจกันจนสนิทใจอย่างเพื่อนทั่วไป วันหนึ่งนาโอกินำเรื่องวุ่นๆ ในบ้านมาปรึกษาโทระตะเพื่อให้โทระตะช่วยเหลือบางอย่าง เขาถูกลากไปพบกับฆาตกรรมสยองในตระกูลฟุรุงามิซึ่งทุกคนล้วนมีความวิปริตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน แปล มาจาก Yoru Aruku ของ โยโคมิโซะ เซชิ และแปลโดยคุณชมนาด ศีติสาร ใช้วิธีการเล่าเรื่องจากมุมมองของบุคคลที่สาม (ซึ่งในความเป็นจริงมีบทบาทมากกว่าแค่บุคคลที่สาม) เล่มนี้มีตัวละครไม่มากนัก อ่านแล้วติดตามได้ง่าย มีการจับประเด็นทางสังคมยุคหลังสงคราม และประเด็นทางศีลธรรมในญี่ปุ่น ความสนุกของเล่มนี้คือมุกการเล่นกับมุมมองของฆาตกร มีประเด็นน่าสงสัยมากมาย การเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนของปริศนาฆาตกรรมยังคงลึกล้ำไม่น้อยกว่าเล่มที่ผ่านมา และเป็นอีกครั้งที่โยโคมิโซะ เซชิ ใช้เมืองโอะนิโคะเบะ จังหวัดโอคายามะ เป็นฉากประกอบ ในการเล่าเรื่อง

บุกดังเจี้ยนงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 35

ออกเดินทางใกล้ๆ เที่ยง ขี่ม้าเหล็กใต้ปฐพี มาโผล่หน้าดังเจี้ยนงานสัปดาห์หนังสือ .. ผู้กล้าเยอะเหลือเกิน

12.26 น. บลิส พับลิชชิ่ง มาตามลายแทงที่ส่งมาให้ถึงบ้าน เพราะดันไปกรอกชื่อเป็นสมาชิกเมื่อคราวที่แล้ว .. กะว่าจะเก็บไอเท็มซัก 4 เล่ม ..

  1. นัดหมายในความมืด – 155 GP
  2. รอยสักรูปหมา – 175 GP
  3. ปริศนาคำสารภาพ – 190 GP
  4. โทรศัพท์สลับมิติ – 130 GP
  5. ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน – 115 GP
  6. คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่แปด อย่าออกมาเดินตอนกลางคืน – 190 GP
  7. ซายากะ ตอนไดอารี่สีอำพัน – 165 GP
  8. แมวสามสียอดนักสืบ ตอนชมรมวิญญาณคนเถื่อน – 160 GP
  9. ฆาตกรรมในโรงเรียน – 170 GP

เก็บไป 9 .. รวม 1450 GP แต่โทษฐานที่มีการ์ดสมาชิกของบลิส ลด 30% เหลือ 1015 .. เย้

หันไปบูธตรงข้าม เพิร์ล พับลิชชิ่ง เจอไซด์เควสต์ อาร์ทิมิส .. ไหนว่าสามเล่มจบฟะ อาร์ทิมิส ฟาวล์ และอาณาจักรที่สาปสูญ (aka อาร์ทิมิส เล่ม 5) ราคา 320 ลด 15% เหลือ 272 .. (หน้าปกเขียนชื่อคนแต่งผิดเปล่า ?)

12.56 ถึงช็อปมติชน คนแห่ไปแก้เควสต์หลัก An Inconvenient Truth (490 ลดเหลือ 419) อย่างตรึม สี่สีอาบมันทั้งเล่มสวยงาม เปิดดูแล้วรายละเอียดน้อยไปหน่อย ไม่โดนเท่าไหร่ ดูดีวีดีหนุกกว่า .. แต่เล่มที่วางข้างๆ กันนี่สิ เห็นแล้วรีบคว้าไปจ่ายตังค์แบบไม่ลังเล “รามานุจัน” .. คนที่อ่านผู้ชายที่หลงรักตัวเลขแล้วน่าจะคุ้นกับชื่อ รามานุจัน และถ้าจำกันได้ แอร์ดิช เคยถาม ศ. ฮาร์ดี้ ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณทำให้วงการคณิตศาสตร์คืออะไร” ศ. ฮาร์ดี้ ตอบว่า “การค้นพบรามานุจัน”.. 350 เหลือ 298 ทิ้งความจริงที่คนไม่อยากฟังไว้เบื้องหลัง

13.03 น. เดินผ่านช็อปนายอินทร์ … แวะทำไซด์เควสต์ Unputdownable Mystey ชุดล่าสุด

  1. ปริศนาสมบัติอัศวิน – 295 GP
  2. ซ้อน – 265 GP
  3. ไม่รู้ – 315 GP

รวม 875 เหลือ 695

จากนั้นก็เดินหาบางกอกไกด์ ซื้อแผนที่ กทม. ตามใบสั่งของ GF (i.e. เควสต์หลัก ไม่เคลียร์ไม่ได้ !) .. 50 บาท

ไหลไปตามกระแสของผู้กล้านับหมื่น .. เพื่อนที่ summon มาช่วยเมื่อสายๆ โผล่มาพอดี กู๋ดุลย์รุ่นตัดแว่นใหม่ พอเจอกันแล้วก็เอาไอเท็มไปไว้ช็อปฝากไอเท็มหน้างาน จะได้มี agi กับ dex เยอะๆ เตรียมลุย

เก็บไอเท็มสุดท้ายก่อนจะลืม .. ช็อปนานมีบุ๊คส์ หาตั้งนานก็ไม่เจอ .. หลงทางมาถึงโปรวิชั่นเลยตัดสินใจย้อนกลับไปทางเข้าดังเจี้ยนไปเอาแม็พของดังเจี้ยนที่ NPC .. กางแม็ปดูปรากฏว่า นานมีบุ๊คส์ อยู่ตรงข้าม โปรวิชั่น! .. 14.21 น. เคลียร์ แฮร์รี พอตเตอร์ เล่ม 7 ภาษาอังกฤษให้ OL .. ราคาปก 1200 เหลือ 850 แถม ควิดดิชในยุคต่างๆ 1 เล่ม กับ ชาเขียวโมชิ 1 ขวด ไว้เติม HP.. เอ่อ โคตรไม่เกี่ยวเลย (- -‘)

คราวนี้ก็ไปแก้เควสต์กู๋ดุลย์ที่บงกชบ้าง .. กู๋ดุลย์ได้ ARIA เล่ม 7 มาหนึ่งเล่ม .. กู๋กะจะยก One Piece ทั้งชุดก็เกรงจะทำให้แบกหนัก แถม GP กู๋เหลือน้อยเพราะเพิ่งไปซื้อไอเท็มแว่นก่อนมาบุกดังเจี้ยน .. ซวยจริง

เดินไปเติม HP ที่ฟู้ดคอร์ท … อิ่มแล้วก็ไปรับไอเท็มที่ฝากไว้ ซื้อกล่องเก็บไอเท็มที่ช็อปไปรษณีย์ไทย แล้วก็เผ่นออกมาจากดังเจี้ยน ขี่ม้าเหล็กใต้ปฐพีกลับที่พัก .. ส่วนกู๋ดุลย์ เหมือนจะไปลุยสะพานเหล็กต่อ (- -)a

สรุป .. สะสมไอเท็มไป 14 เล่ม รอรับที่บ้าน 1 เล่ม รวมราคาปก 4,255 บาท ลดเหลือ 3,180 เฉลี่ยแล้วก็ลดไปสัก 25% … จบภาคงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 35 .. โปรดติดตามภาคต่อไปอีกหกเดือนข้างหน้า

คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 7 – คดีฆาตกรรมเพลงเล่นลูกบอลปีศาจ

คินดะอิจิเดินทางจังหวัดโอคายามะ เขาไปหาสารวัตรอิโซคาวะเพื่อขอคำแนะนำว่าจะไปหลบไปพักผ่อนที่ไหนดี เอาให้ห่างไกลผู้คนเข้าไว้ .. สารวัตรแนะนำให้ไปไปหมู่บ้านโอนิโคะเบะ หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา พร้อมกับหยอดเรื่องของคดีวุ่นๆ ในหมู่บ้านเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่ยังไม่สามารถตามตัวคนร้ายได้ .. คินดะอิจิไม่อยากจะสนใจเรื่องคดีเพราะอยากพักจริงๆ แต่ก็ติดกับสารวัตรจนได้ .. เขาเข้าพักที่บ่อน้ำร้อนตามคำแนะนำของสารวัตร มีโอกาสพบผู้คนที่เกี่ยวข้องในคดีเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนหลายคน ..

ในที่สุด วันพักผ่อนของคินดะอิจิก็หายไปเมื่อหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องในคดีเมืื่อยี่สิบกว่าปีก่อนหายสาปสูญไป เป็นไปได้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว .. ไม่นาน เด็กสาวในหมู่บ้านก็ตายไปอีกคน .. แล้วก็อีกคน ตรงกับเนื้อเพลงเล่นลูกบอลของหมู่บ้านโอนิโคะเบะ .. ตามเนื้อเพลงยังเหลืออีกหนึ่งสาวที่ต้องตาย .. นี่ไม่ใช่แค่ฆาตกรรมต่อเนื่อง มันมีเงื่อนงำมากกว่าที่คิด คินดะอิจิจะหาตัวฆาตกรได้ทันหรือไม่ ? แถมคดีใหม่กับคดีเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็ดูจะมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่เสียด้วย ..

คดีฆาตกรรมเพลงเล่นลูกบอลปีศาจ แปลจาก Akuma No Temariuta ของโยโคมิโซะ เซชิ โดยคุณชมนาด ศีติสาร สนุกเข้มข้นเช่นเคย และยังคงมีรายละเอียดตัวละครเพียบอีกเช่นเคย .. ตอนที่เจ็ดนี่เป็นอีกครั้งที่ต้องอ่านสองรอบ ผูกเงื่อนได้เนียนจริงๆ

At 16th WUNCA & CIT2007

มาประชุมงาน 16th WUNCA & CIT2007 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ตั้งแต่ 31 ม.ค. 50 – 2 ก.พ. 50 .. นั่งฟังไปด้วย ประชุมไปด้วย ทำเว็บไปด้วย build iceweasel + libthai ไปด้วย (พี่ thep ส่งมาให้ .. ใครใช้ edgy อยู่รอแป๊บเน้อ .. เมื่อวานสั่ง build ทิ้งไว้ .. กลับมาดูวันนี้ ปรากฏว่า HDD เต็ม build ไม่เสร็จ – -‘) ท่าน vee tag มารอบสอง .. รอแป๊บเหมือนกัน ไม่มีหนังสือ เลยไม่รู้จะเปิดหน้า 123 ยังไง :P

ที่ติดๆ ไว้ กลับไป มข. ค่อยว่ากันเน้อะ :P

คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 6 – เจดีย์สามเศียร

โอโทเนะสาวน้อยที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยสตรี กำลังเริ่มต้นชีวิตที่ราบเรียบด้วยการช่วยงานที่บ้าน .. พ่อแม่เธอเสียตั้งแต่ยังเธอยังเล็ก ลุงกับป้ารับเธอเป็นลูกบุญธรรมเพราะไม่มีลูก เธอได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักมาตลอด แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้รับข่าวจากทวดของเธอที่เธอคิดว่าเสียชีวิตไปนานว่าจริงๆ แล้วเขายังมีชีวิตอยู่ แต่คงอยู่ได้อีกไม่นาน ทวดของเธอเขียนพินัยกรรมจะยกมรดกหมื่นล้านเยนให้กับเธอ โดยมีเงื่อนไขว่าเธอต้องแต่งงานกับชายคนหนึ่งที่ทวดเธอเลือกไว้ .. ทาคาโตะ ชุนซากุ คือชายคนนั้น .. เว้นเสียแต่ชุนซากุตายเสียก่อนมรดกถึงจะแบ่งให้กับเครือญาติทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน .. หมื่นล้านเยน .. เงินขนาดนี้มากพอที่จะทำให้ญาติพี่น้องกลายเป็นศัตรูกันได้ไม่ยากเลย ..แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เหตุร้ายๆ ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกทั้งกับตัวเธอ และญาติๆ ของเธอ ทุกคนมีแรงจูงใจที่จะก่อฆาตกรรม แต่คดีแต่ละครั้งล้วนแปลกประหลาดที่ไม่พบเงื่อนงำใดๆ ที่โยงถึงฆาตกร .. โอโทเนะที่เคยมีแต่ชีวิตที่ราบเรียบ กลับมีเรื่องราวโลดโผนเกิดกับเธอมากมาย เธอถูกชายคนหนึ่งย่ำยี ชายผู้นี้ช่างเป็นคนที่ชั่วร้าย กระนั้น เธอยังไม่สามารถหนีพ้นชายคนนี้ได้ เพราะลึกๆ แล้วเธอหลงรักชายคนนี้เข้าให้แล้ว .. และยิ่งเธอติดตามชายผู้นี้นานเข้า เธอก็มีโอกาสเข้าไปใกล้ชิดกับฆาตกรรมแทบทุกครั้ง .. วันนี้ เส้นทางชีวิตนำพาเธอมาสิ้นสุดที่เจดีย์สามเศียร .. สถานที่ลึกลับอันเป็นจุดเริ่มต้นของความชิงชัง ชั่วร้าย และเป็นจุดเริ่มต้นชะตากรรมของเขาและเธอ

เรื่อง mitsukubi-to เขียนโดย โยโคมิโซะ เซชิ เป็นอีกหนึ่งเล่มในซีรีส์คินดะอิจิที่สนุก ลึกลับ มีสเน่ห์ เล่มนี้เปลี่ยนผู้แปลเป็น คุณบุษบา บรรจงมณี ได้อรรถรสไม่แพ้เล่มที่ผ่านๆ มา … ที่จริงเล่มนี้ยังคงคล้ายกับอีกหลายเล่มที่การดำเนินเรื่องไม่ได้เล่าผ่านสายตาของคินดะอิจิ แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นคินดะอิจินี่แหละที่ไขคดีและอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดในบทท้ายๆ .. :)