ชุนซุเกะตัดสินใจเดินทางไปร่วมเข้าค่ายติวเข้าสอบของลูกบุญธรรม ไม่เพียงเพื่อทำหน้าที่พ่อ แต่เพื่อพิสูจน์พฤติกรรมของมินาโกะ ภรรยาของเขา .. ในค่ายติวเขาได้พบกับอีกสามครอบครัวที่นำลูกมาเข้าค่ายที่ทะเลสาบฮิเมงามิเช่นกัน ดูเหมือนมินาโกะกับครอบครัวทั้งสามจะสนิทสนมกันจนเขารู้สึกเป็นส่วนเกิน นั่นทำให้เขามั่นใจกับพฤติกรรมของภรรยามากขึ้นไปอีก เธอต้องมีชู้แน่ และหนึ่งในคนเหล่านี้นี่แหละที่เป็นชู้กับเธอ .. ในวันเดียวกันนั้นเองที่เอริโกะ เพื่อนร่วมงานและชู้รักของชุนสุเกะปรากฎตัวที่ค่าย เธออ้างว่าเอาเอกสารมาให้ชุนซุเกะ แต่ความจริงแล้วคงเพื่อตามชุนซุเกะมาที่แห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นชุนซุเกะยังขอให้เธอเป็นคนที่คอยตามดูพฤติกรรมของมินาโกะอย่างลับๆ .. การมาครั้งนี้เธอนำหลักฐานบางอย่างมาให้กับเขาด้วย .. แต่เอริโกะมาถึงแล้วก็ไม่มีโอกาสได้กลับออกไปจากค่าย เมื่อเธอถูกฆามกรรม โดยฆาตกรที่รับสารภาพคือ มินาโกะ นั่นเอง .. เรื่องควรจะจบลงง่าย หากครอบครัวอื่นไม่เงียบเฉย ไม่มีใครต้องการแจ้งความ ในทางกลับกัน กลับกล้าเสี่ยงปกปิดคดีฆาตกรรมครั้งนี้ … ความสับสนจึงเกิดกับชุนซุเกะ ทำไมคนเหล่านี้ต้องพยายาม และยอมเสี่ยงขนาดนี้ ? เพื่อปกป้องมินาโกะงั้นหรือ ? อะไรคือเหตุผลที่แท้จริง ? เบื้องหลังการเข้าค่ายติวครั้งนี้คืออะไร ?
ความลับใต้ทะเลสาบ แปลจากเรื่อง Lakeside ของฮินาชิโนะ เคโงะ โดยคุณบัณฑิต ประดิษธานุวงษ์ เคโงะเป็นวิศวกรที่ผันตัวมาเป็นนักเขียน และทำงานเขียนได้ดังเปรี้ยงปร้างในเวลาอันรวดเร็ว เป็นเคโงะคนนี้แหละที่แต่งเรื่อง Himitsu หรือ Naoko หรือ “ความลับ” ในชื่อภาษาไทย ที่เคย blog ไว้ก่อนหน้านี้ แม้เรื่องนี้เขียนออกเป็นแนวอาชญนิยาย แต่สังเกตพบว่ามีรากที่เกี่ยวข้องกับความรัก คล้ายกับเรื่องความลับ แถมด้วยอารมณ์ happy ending ที่ขุ่นๆ มัวๆ เหมือนเฉลยไม่สุดยังไงชอบกล .. จะว่าไปแล้วเวลาอ่านสองเรื่องนี้อาจไม่ต้องพยายามคิดหรือหาเฉลยให้มากนักก็ได้ .. เจตนาของเคโงะเหมือนจะต้องการให้ผู้อ่านรู้สึกไปกับตัวละครหลักเสียมากกว่า .. YMMV !
เรื่อง Lakeside ได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ レイクサイドマーダーケース (Lakeside Murder Case)