วันที่ 15 -16 ที่ผ่านมา มีโอกาสไปทำ working group ที่ ม. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย .. ลือกันว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยนัก .. ก็เลยแบกกล้องไปด้วย
[nggallery id=51]
วันที่ 15 -16 ที่ผ่านมา มีโอกาสไปทำ working group ที่ ม. แม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย .. ลือกันว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยนัก .. ก็เลยแบกกล้องไปด้วย
[nggallery id=51]
ในที่สุดก็มีคนพบศพของ ท์ซุบากิ ฮิเดะสุเกะ เจ้าบ้านตระกูลไฮโซผู้รักการเป่าฟลุตที่หายตัวไปอย่างลึกลับ .. หลายคนคิดว่าท์ซุบากิอาจจะฆ่าตัวตายเนื่องจากเขาเคยเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอันโด่งดังคดีหนึ่ง .. เรื่องราวสยองขวัญเริ่มต้นตรงที่ลูกสาวของท์ซุบากิเริ่มไม่แน่ใจว่าศพที่พบเป็นพ่อของตัวเธอจริงๆ แถมมีคนในครอบครัวเคยเห็น ท์ซุบากิ ตัวเป็นๆ อีกด้วย .. เธอจึงขอให้ คินดะอิจิ มาสืบดู .. ยิ่งคินดะอิจิสืบเรื่องก็ยิ่งบานปลายไปเรื่อยๆ ทั้งความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงระหว่างสามตระกูลพี่น้องไฮโซ และการฆาตกรรมในตระกูลที่มาพร้อมกับเสียงฟลุต อันเป็นที่มาของชื่อตอน “บทเพลงปิศาจ” .. หรือ ท์ซุบากิ จะยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ?
ตอนที่สามนี้ใช้ชื่อ Akuma ga kitarite fue wo fuku เปลี่ยนคนแปลมาเป็น ชมนาด ศีติสาร อ. คณะอักษร จุฬาฯ แต่ยังคงเป็นคดีฆาตกรรมเจือด้วยเรื่องลึกลับที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนน่ากลัวยิ่งขึ้น ตามสไตล์ของ โยโคมิโซะ เซชิ เหมือนเดิม :)
เล่มที่หกของซีรีส์ มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ อ่านจบไปนานมากแล้ว แต่ไม่ได้เขียนบันทึกซะที พอจะเขียนก็ลืมหมดแล้วเลยได้อ่านใหม่อีกรอบ ในตอนที่หกนี้ ยังไม่เข้าบทที่หนึ่งก็เจอคดีฆาตกรรมอันเป็นจุดเริ่มต้นเลย เด็กหญิงมัธยมถูกฆาตกรรมและอำพรางคดีอีกชั้น พี่น้องคาตายามาก็บังเอิญเหลือเกินที่โผล่ไปอยู่ในเหตุการณ์ก็เลยได้เป็นเจ้าของคดี .. เพราะเป็นเรื่องของเด็กนักเรียน คดีเลยวนเวียนอยู่ในโรงเรียน .. หลังเด็กสาวถูกฆาตกรรม ก็มีเหตุการณ์อื่นๆ เกิดตามมาอีกหลายเรื่อง แม้เหตุการณ์จะดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เกือบทั้งหมดเชื่อมโยงไปสู่ชมรมเรื่องลี้ลับของโรงเรียนแทบทั้งสิ้น .. ฆาตกรน่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมนี่แหละ แต่จะเป็นใคร ทำไปเพราะอะไร และสร้างสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างไร พี่น้องคาตายามาและแมวสามสีจะต้องเป็นฝ่ายคลี่คลายคดีอันแสนจะปวดหัว
อ่านไปสาม-สี่รอบแล้วก็ยังสนุกนะ :D
ตามกระแสนิดนึง :P
[nggallery id=50]
ดองไว้หลายเดือน เพิ่งจะมีเวลาอ่าน เรื่องในตอนนี้แปลมาจาก Yatsuhaka-mura ของโยโคมิโซะ เซชิ โดย เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ ที่ญี่ปุ่นเคยทำเป็นภาพยนตร์เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว เป็นคดีฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับตำนานของหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งในอดีตมีซามูไรแพ้สงครามแปดนายหอบทองคำหนีมาหลบซ่อนตัว .. แรกๆ ก็อยู่กับชาวบ้านดี แต่ผ่านไปหกเดือน ทางการตามล่าอย่างหนักบวกกับชาวบ้านโลภต้องการครอบครองทองคำที่ซ่อนไว้ ทั้งหมู่บ้านเลยวางแผนลอบสังหารซามูไรทั้งแปดหวังทองคำ หรืออย่างน้อยก็ได้ค่าหัวจากทางการ ซามูไรทั้งแปดไม่สามารถสู้คนทั้งหมู่บ้านได้ ล้มตายไปทีละคน ตัวแม่ทัพจึงแค้นคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมากจึงลั่นวาจาว่าจะจองเวรไปอีกเจ็ดชาติ .. ตั้งแต่นั้นมาหมู่บ้านก็มีเหตุการณ์ประหลาดทำให้คนล้มตาย ทั้งหมู่บ้านจึงเชื่อว่าเป็นคำสาปของแม่ทัพ จึงจัดพิธีศพและบวงสรวงซามูไรทั้งแปดเป็นเทพเจ้าประจำหมู่บ้าน เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านแปดหลุมศพ ..แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหตุการณ์ยุติ .. ล่าสุดพ่อบ้านประจำตระกูลใหญ่แห่งหมู่บ้านก็อาละวาดสังหารชาวบ้านไป 32 ศพ ซึ่งเป็น 4 เท่าของ 8 แล้วก็หายสาปสูญไป
เหตุการณ์นั้นผ่านไปยี่สิบกว่าปี พอๆ กับอายุของ ทะซึยะ หนุ่มที่กำพร้าแม่แต่เล็กและอยู่กับพ่อเลี้ยงมาตลอดจึง เขาจึงไม่เคยรู้ว่าตนเป็นใครมาจากไหน .. อยู่มาวันหนึ่งก็มีประกาศตามหาทะซึยะทางวิทยุ เขาไปพบคนที่ตามหา แล้วก็พบว่าเขาเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ของหมู่บ้านแปดหลุมศพ และทางตระกูลตามหาตัวเพื่อไปสืบทอดมรดก .. น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับทะซึยะ หากไม่เกิดเหตุประหลาดซะก่อน เริ่มจากคนที่มารับทะซึยะกลับหมู่บ้านซึ่งเป็นตาแท้ๆ ตายไปต่อหน้าต่อตาทะซึยะ ตามด้วยพี่ชาย นักบวช และใครต่อใครอีกหลายคน .. ทุกคนตายด้วยอาการเหมือนๆ กัน แต่แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย เหมือนเป็นการฆ่าแบบสุ่ม ไม่มีการวางเป้าหมาย ไม่มีเจตนาใดๆ .. ชาวบ้านจึงเชื่อว่าตำนานแปดหลุมศพกลับมาพร้อมกับทะซึยะ เขาจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก และเป็นคนที่ทั้งหมู่บ้านหมายหัวไว้ .. นอกจากนี้ยังมีเรื่องแปลกๆ ลึกลับๆ อีกมากมายในตระกูล ทะซึยะจึงต้องหาทางพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่ฆาตกรพร้อมๆ กับค้นหาความลับของตระกูล รวมไปถึงทองคำของแปดซามูไรที่ยังไม่มีใครพบอีกด้วย
สำหรับตอนนี้ คินดะอิจิ แทบไม่ได้ออกโรงคลี่คลายคดีอะไรเลย เพราะฆาตกรเผยตัวเองในตอนท้าย .. แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีบทบาท เพราะท้ายที่สุดเขาคือคนเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน คลี่คลายคดีอย่างมีเหตุผล และได้เผยเจตนาที่แท้จริงของฆาตกร
รู้สึกว่า เวลาอ่านคินดะอิจิต้องใช้สมาธิมากกว่าเล่มอื่นๆ .. เป็นตั้งแต่เล่มแรกแล้ว .. จะอ่านเล่มสามคงต้องหาเวลาว่างจริงๆ อ่านรวดเดียวเลย .. อ่อ .. มิเกะเนะโกะ เล่มหกอ่านจบนานแล้ว ยังไม่ได้ blog ไว้ :P
อ่านจบไปนานแล้ว และคิดว่าบันทึกลง blog ไปแล้ว เพิ่งจะรู้ว่ายังไม่ได้บันทึกตอนที่จะบันทึกตอนที่สอง ก็เลยได้ย้อนกลับมาอ่านตอนที่หนึ่งใหม่ (- -‘)
จากชื่อเรื่องก็คงไม่ต้องเดาแล้วว่า เป็นเรื่องฆาตกรรม และเกิดในตระกูลอินุงามิ .. ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ ซาเฮ อินุงามิ สร้างมาจากแทบไม่มีอะไรติดตัวเลยจนกลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวย จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ ซาเฮ เสียชีวิต เขาได้ทำพินัยกรรมทิ้งไว้กับทนาย พินัยกรรมนี้มีเงื่อนไขที่ทำให้คนทั้งตระกูลเกลียดชังกัน จนกลายเป็นชนวนของคดีฆาตกรรมที่เกิดในตระกูล .. นอกจากนี้แล้วคนในตระกูลยังมีความสัมพันธ์กันอย่างประหลาดยุ่งเหยิง มีตัวละครเยอะแยะไปหมด และอาจจะเป็นเหตุให้ต้องใช้พื้นที่ไปกว่าหกสิบหน้าในการอารัมภบท ก่อนจะเข้าสู่ฉากการฆาตกรรม .. โคสุเกะ คินดะอิจิ ถูกว่าจ้างให้สืบดูเรื่องราวของตระกูลนี้ แต่ยังไม่ทันเจอคนที่ว่าจ้างก็พบว่านายจ้างกลายเป็นศพไปเสียแล้ว นั่นยังไม่รวมถึงการพยายามฆ่าคนในตระกูลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีกหลายครั้ง .. เขาพบว่านอกจากพินัยกรรมที่มีเนื้อหาชวนให้เกิดเหตุนองเลือดในตระกูลแล้ว ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งยังสยดสยองและพิสดารอย่างมาก .. คงไม่ต้องบอกว่า แรงจูงใจในเรื่องนี้น่าจะมาจากพินัยกรรมและมรดกมากมายมหาศาล แต่ใครคือฆาตกร? ต้องการสื่ออะไรกันแน่ถึงสังหารเหยื่อแต่ละรายอย่างสุดพิสดาร ?
คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอน ฆาตกรรมในตระกูลอินุงามิ แปลไทยโดย เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญ จากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นในชื่อ Inugamike no Ichizoku เขียนโดย โยโคมิโซะ เซชิ เมื่อนานมาแล้ว นานขนาดที่ Copyright ล่าสุดยังเป็นปี 1976 โน่น .. โยโคมิโซะ เซชิ เป็นยอดนักเขียนนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนแทรกด้วยเรื่องลึกลับสยองขวัญ นับเป็นนวนิยายแนวใหม่ในสมัยนั้น ตั้งแต่เปิดตัวก็ได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีผลงานผลิตต่อเนื่องตามมาอีกหลายสิบเล่ม กลายเป็นต้นฉบับที่ได้รับการหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์และการ์ตูนหลายต่อหลายครั้ง อย่างที่บ้านเรามีการ์ตูน (manga) ในชื่อ ‘คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา’ มีตัวเอกคือ ฮาจิเมะ คินดะอิจิ เป็นหลานของ โคสุเกะ คินดะอิจิ อันเป็นตัวละครจากนิยายของ โยโคมิโซะ เซชิ นี่เอง
พบกับตอนที่สองเร็วๆ นี้ :P
ทุกเย็น ที่กระทรวงสาธาฯ จะมีคนพาน้องหมามาเล่น .. เลยแวะไปถ่ายรูปมา
[nggallery id=49]
งานยุ่งนรกแตกมากๆ .. ยังหาเรื่องเอารูปมาโพสเล่นอีก (- -‘)
บันทึกตอนไป งานหนังสือครั้งล่าสุด .. หนังสือที่ซื้อมายังไม่มีเวลาอ่านเล้ยยยย T_T
เชยอย่างแรง .. เพิ่งรู้ว่า OO.o 2.0 ก็ตัดคำภาษาไทยได้ :P
ไม่ค่อยชอบ toolbar เท่าไหร่ เพราะ icon มันโดโพด .. หาๆ ดูก็เจอว่ามันตั้งเป็น small icons ก็ได้
ตั้ง UI font ก็ได้นะ
ออกเมื่อ 27 ต.ค. 48 ที่ผ่านมา ช้ากว่าที่กะไว้ประมาณ 10 วัน จาก ChangeLog มีการเปลี่ยนแปลงประมาณสามพันกว่าจุด ตามแผนของ 2.6.14 มีการเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร .. เที่ยวนี้ลอง make allyesconfig จาก 2.6.13.4 แล้วมา make oldconfig ใน 2.6.14 ได้ออกมาดังนี้