หายไปจากวงจรข่าวหลายวัน วันนี้เลยอัปเดตข่าวสารต่างๆ มากมาย มีคิวอัปเดต + ทดสอบแพ็กเกจหลายตัว .. อ่อ เคอร์เนล 2.6.6 ออกแล้วครับ พร้อม mm1 ตามมาติดๆ ในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
เจอเรื่องน่าสนใจที่ http://slashdot.org เกือบๆ จะตกข่าว คือมี คนทดสอบประสิทธิภาพของระบบไฟล์ ext2 ext3 reiserfs jfs xfs .. เป็นไปตามที่คาดไว้ คือ jfs ดูน่าประทับใจกว่าเพื่อน และ ext3 ห่วยสุด .. ตามไปอ่านกันดูครับ (นินทา: ดูเหมือนกราฟจะใช้ MS Excel นะ :P)
มีข่าวดีว่า Novell ‘จะ’ โอเพนซอร์ส Ximian Connector ตัวเชื่อม MS Exchange (และ GroupWise ?) .. ชาว /. บอกว่าไม่ต้องรอแล้ว ไปโหลดได้เลย ผมก็สอยมาซะเป็นที่เรียบร้อย
บ่ายๆ แวะเข้าห้อง #tlwg อ.พฤษภ์ ถามเรื่อง LyX บนทะเล ผมยังแก้ปัญหาให้ไม่ได้เลย วีร์ถามเรื่อง printing ของ inkscape ผมลองดูก็พบว่ามันพิมพ์ไม่ได้ งงไปอีกดอก รู้สึกผิดยังไงชอบกล .. น้องฝ้ายตั้งประเด็นเรื่อง software patent ในเมืองไทย ช่วยกันหาข้อมูล แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ณ เวลานี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ .. ซึ่งก็ดีแล้ว ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ล่ะก็ น่ากลัวโคตรๆ ..
ร่ายยาวสักนิดตามที่เข้าใจมา (คำเตือน: IANAL ดังนั้นที่จะเล่าต่อไปนี้ ผิดหรือถูกก็ไม่รู้ จะอ้างอิงก็ได้แต่ผมไม่รับผิดชอบเนื้อหานะ) .. หลักๆ แล้ว ประเทศไทยมี พรบ. คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอยู่สองตัว คือ พรบ. สิทธิบัตร ซึ่งคุ้มครอง ‘วิธีการ’ และ พรบ. ลิขสิทธิ์ ซึ่งคุ้มครอง ‘เนื้อหา’ .. กรณีของประเทศไทย พรบ. สิทธิบัตรเน้นการคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์และการออกแบบ ส่วนซอฟต์แวร์จะได้รับการคุ้มครองโดย พรบ.ลิขสิทธิ์ .. ทีนี้ในกรณีของสิทธิบัตรซอฟต์แวร์เนื้อหากว้างๆ เป็นเรื่องการคุ้มครองอัลกอริทึม ซึ่ง ในสหรัฐมีการคุ้มครองแล้ว ในยุโรปก็พยายามผลักดันให้มีการคุ้มครอง กฎหมายนี้มีผลให้เจ้าของสิทธิบัตรมีสิทธิตามกฎหมายในการเรียกค่าธรรมเนียมในการใช้อัลกอริทึมที่จดในสิทธิบัตรนั้น และสามารถฟ้องเอาผิดกับผู้ละเมิดได้ ในทำนองเดียวกับการเรียกค่าใช้เทคโนโลยีในสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งฟังดูแล้วสมเหตุสมผลในแง่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ ปัญหาคือมันกระทบกับโอเพนซอร์สอย่างจัง ด้วยซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สบางตัวก็ใช้อัลกอริทึมที่มีการจดสิทธิบัตรด้วย อย่างอัลกอริทึมที่ใช้วิธีการตามมาตรฐาน หรือเป็น de facto เช่น อัลกอริทึมการเข้า/ถอดรหัส mp3 หรือ Dolby AC3 เป็นต้น ผลคือซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สแม้จะไม่มีค่าใช้จ่ายในแง่ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ แต่หากมีกฏหมายคุ้มครองสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ นักพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ดิสโตรที่เผยแพร่โอเพนซอร์สจะถือได้ว่ามีความผิดตามกฎหมาย และ ‘อาจจะ’ ต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องสิทธิบัตรแทน .. แปลว่าซอฟต์แวร์เสรีบางตัวอาจจะไม่สามารถคงความเสรีต่อไปได้หากมีกฎหมายสิทธิบัตรซอฟต์แวร์เกิดขึ้น ..
mp3 เป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนมากที่สุดตัวหนึ่งในเรื่องสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ เท่าที่ค้น และรับฟังมาคือ เจ้าของสิทธิบัตร mp3 คือ บ. Thomson-Fraunhofer ได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีหลายฉบับที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ mp3 ในหลายประเทศทั่วโลก บ. คิดค่าธรรมเนียมการใช้เทคโนโลยีตามสิทธิบัตร US$0.75 ต่อสินค้าหนึ่งชิ้น หรือจ่ายครั้งเดียว US$50,000 ไม่จำกัดจำนวนสินค้า และเพราะมีสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ในสหรัฐฯ Red Hat Inc. จึงตัดสินใจถอด mp3 ออกจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด (ที่จริงจะจ่าย US$50,000 ขนหน้าแข้ง RH คงไม่ร่วงหรอก แต่ประมาณว่ามันผิดแนวคิดเรื่องซอฟต์แวร์เสรี) xmms ใน RHL จึงไม่มี mp3 plugin และไม่มีแม้แต่ซอร์สของ mp3 ใน xmms-x.x.x-x.src.rpm เล่นกันอย่างนั้นเลย .. ทีนี้ หากย้อนกลับไปถึงผู้ที่พัฒนาไลบราลี หรือซอฟต์แวร์ เข้า/ถอดรหัส mp3 (เช่น lame, libmad, .. ) ก็อาจจะถือว่านักพัฒนาเหล่านี้มีความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ เพราะ พัฒนาและเผยแพร่ ‘วิธีการ’ ตามสิทธิบัตรที่ได้รับความคุ้มครองแล้วตามกฎหมาย .. ความซวยจึงบังเกิด .. อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ เท่าที่ค้นเจอคือ เขาห้ามเผยแพร่ ‘ไบนารี’ ของซอฟต์แวร์เข้า/ถอดรหัส mp3 แต่ ‘อนุโลม’ ให้เผยแพร่รหัสต้นฉบับ (source code) ได้ เพราะถือว่ารหัสต้นฉบับมันยังไม่สามารถทำงานตามวิธีการในสิทธิบัตรได้ จึงคงมีการพัฒนาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในการเข้า/ถอดรหัสกันต่อไป .. และ end-user สามารถเอารหัสต้นฉบับไปคอมไฟล์ใช้งานเองได้โดยไม่ถือว่าละเมิดสิทธิบัตร เพราะถือเป็นการใช้ส่วนตัว ไม่ใช่การพาณิชย์ ..
กลับมาในบ้านเรา แม้ยังไม่มีการคุ้มครองแต่เนคเทคก็เอา mp3 ออกจากลินุกซ์ทะเลไปแล้ว ตั้งแต่เวอร์ชัน 5.5 เป็นการป้องกันไว้ก่อน ผมเลยได้แจก mp3 plugin แทน เพราะยังไงก็เป็นคนแพ็กเกจโปรแกรมพวกนี้เองอยู่แล้ว .. และก็เป็นตามคาด คนบ่นเรื่อง xmms เล่น mp3 ไม่ได้ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เปิดตัว .. ฮา
ทำยังไงที่ทำให้ซอฟต์แวร์เสรียังคงเสรีอยู่ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของสิทธิบัตรด้วย ?? ..
ผมแก้ blog นิดหน่อย ตรงหัวเรื่อง blog ผมทำเป็น link แล้วนะ ใครจะอ้างอิง blog ของวันนั้นๆ ก็ไม่ต้องก๊อปจากปฏิทินแล้ว ก๊อป URL จากหัวเรื่อง blog ได้เลย สะดวกขึ้นนิดนึง :P